เหยี่ยวถลาลม : เดียวดาย

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวอันคึกคักของ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อครั้งยังดำรงฐานะ “นายกรัฐมนตรี” เมื่อปลายปี 2551

“อภิสิทธิ์” แทบไม่เชื่อในสายตาว่า ท่วงท่าประยุทธ์ในวันนี้จะแปรเปลี่ยน จาก “คนกลาง” มาเป็น “ผู้เล่น”

“รัฐบาลขยับมาขอเป็นผู้เล่นทางการเมืองด้วย” อภิสิทธิ์กล่าวด้วยอารมณ์เหนือความคาดหมาย

ถ้ายังจำกันได้ !

Advertisement

เมื่อปลายปี 2551 การขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของ “อภิสิทธิ์” นั้นไม่ใช่วิธีปกตินัก จึงมีผู้ให้ฉายาว่า “รัฐบาลในค่ายทหาร”

แต่ภายใต้การบริหารของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ต่อมาสร้างความผิดหวังให้กับเครือข่ายอำมาตย์และกองทัพ

แม้กระทั่งในทางวิชาการที่มีการสำรวจวิจัยกันอย่างถูกวิธีก็ได้ข้อสรุปว่า ไม่มีอะไรต่างจากแต่ก่อน หนำซ้ำในแวดวงธุรกิจยังระบุว่า “หนักกว่าเดิม”

หลายชื่อโครงการแค่เอาของเก่ามาปัดฝุ่น แล้วปั้นขึ้นมาเพื่อใช้เงิน

“ไทยเข้มแข็ง” ไม่มีอยู่จริง มีแต่การกู้นับแสนๆ ล้านเท่านั้นที่เป็น “ของจริง” !

โอกาสของ “รัฐบาลในค่ายทหาร” จบลงแล้ว

ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่สามารถบริหารจัดการบ้านเมืองให้ราบรื่น การบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจก็ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อถึงคราวเลือกตั้งใหญ่ คงจะพ่ายราบคาบ

เป็นจริงตามนั้น

พรรคการเมืองเก่าแก่แนวอนุรักษนิยมนี้ได้รับความนิยมก็แต่ในเขตเมืองใหญ่ ไม่เคยได้ชัยชนะเลือกตั้งระดับชาติแบบถล่มทลายเลยสักครั้ง !

“คู่แข่งทางการเมือง” ได้เป็นรัฐบาลเช่นเดิม

แต่กลยุทธ์การต่อสู้ครั้งใหม่ก็ไม่ได้เปลี่ยน

แค่บอกว่าฝ่ายตรงข้ามเลว ช่วยกันโหมกระพือจนสุกงอมพอจะเป็น “ข้ออ้าง” ให้คนกลุ่มหนึ่งถืออาวุธเข้ายึดอำนาจ ตั้งตนเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” !!

ถ้าไม่ใช้ “ปืน” จี้คงจะโค่นพรรคการเมืองคู่แข่งไม่ได้

ทหารช่วยบดขยี้ทำลายคู่แข่งคู่แค้นทางการเมืองได้สิ้นเชื้อไม่เหลือซาก !

สมใจปรารถนา

จากนั้นก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วมา “…ขอเวลาอีกไม่นาน”

“อภิสิทธิ์” ก็เหมือนหลายๆ คน ที่หวังว่าในเวลาไม่นาน “คสช.” จะคายอำนาจ

แต่นึกไม่ถึง

อภิสิทธิ์จึงบ่นดังๆ ว่า “ไม่มีใครคิดว่ารัฐประหารจะยาวอย่างนี้ คนก็หวังว่าอะไรจะดีขึ้น แต่เอาเข้าจริง เรื่องการปฏิรูป 4 ปีผ่านมาแล้ว ขยับน้อยมาก”

ทำไม “อภิสิทธิ์” พูดแบบนั้น !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image