พอเห็น มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 93 ชนะเลือกตั้ง ได้กลับมานั่งเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซียอีกครั้ง ที่ฝั่งประเทศไทย บางคนใน “พรรคประชาธิปัตย์” เกิดประกายวาววาบทางความคิดขึ้นมาบ้างว่า
ถ้าเอา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คืนไป แล้วเอา ชวน หลีกภัย กลับมา จะเข้าท่าไหม
ความหมายที่โยนหินถามทางก็คือ ศึกเลือกตั้งที่มาถึงในปีหน้า จะสู้ด้วยวิธีใด
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต้องผุดมุขนี้ขึ้นมาน่าจะเกิดจาก
1.ในประชาธิปัตย์วันนี้ไม่มี “เอกภาพ”
สายหนึ่ง ยืนหยัดมั่นคงกับ “อภิสิทธิ์” กับอีกสายหนึ่ง ฝักใฝ่ในลัทธิ กปปส.ที่มี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำซึ่งได้ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.อย่างสุดลิ่มไปแล้ว
2.ผลโพลที่ออกมา ทำใจยอมรับยาก
แม้ว่า 4 ปีมานี้ “พรรคเพื่อไทย” จะถูกปู้ยี่ปู้ยำชนิดแทบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด สำหรับตัวบุคคลหรือผู้นำพรรคก็ประสบชะตากรรมต่างกันไปสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่หนีตาย หนีคุก ถูกจับ ถูกคุมขังสิ้นอิสรภาพ หรืออยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ หัวซุกหัวซุน
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เลือดเนื้อ “ประชาธิปัตย์” ส่วนหนึ่งอุตส่าห์แปลงกายเป็น “กปปส.” บดขยี้ “เพื่อไทย” กับคนที่เป็นแกนนำ พร้อมๆ กับ “กองทัพ” ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เข้ายึดอำนาจล้มกระดาน
แต่เหตุใด? วันนี้ ผลสำรวจของโพลกลับปรากฏว่า “ประชาธิปัตย์” ยังแพ้ “เพื่อไทย” อย่างหลุดลุ่ย!
ที่ทำใจยากยิ่งไปกว่านั้นคือ
โพลยังให้ “ประชาธิปัตย์” พ่ายแพ้ แม้แต่กับพรรคการเมืองที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างอย่าง “พลังประชารัฐ” ซึ่งประกาศหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งภายหลังเลือกตั้ง
ทั้งหมดนี้ทำให้ “บางคน” ที่เลือดประชาธิปัตย์เข้มข้นถึงกับ “ไปไม่เป็น”
จึงปิ๊งมุข “เอานายหัวชวนลงจากหิ้ง” !
แต่ในบริบทของประเทศไทย “มุข” นี้นับว่าตื้นนัก เพราะถ้าจะกล่าวในแง่สปิริตของนักการเมืองที่มีต่อเวทีการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย “ไทย” เทียบกับ “มาเลย์” ไม่ได้เลย
เพียงแค่เราไม่ชอบฝ่ายตรงกันข้ามและสู้ด้วยวิถีทางปกติไม่ได้ ด้วยความอิจฉาริษยาอาฆาตเราก็พร้อมที่จะทำลายกันเองโดยไม่คำนึงถึง “หลักการ” และ “กฎหมาย”
มุขนี้จึงตื้นมาก
นับเป็นมุขที่ไร้รสนิยม !?!!
