ดีเอสไอแจงจับแก้วปลอม ละเมิดลิขสิทธิ์ 60 ล.เป็นอำนาจหน้าที่ เจอสื่อดราม่า

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. จากกรณีตามที่ปรากฏข่าวคอลัมน์ สื่อบางฉบับ ได้นำเสนอเกี่ยวกับข่าวการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรณีแก้วน้ำปลอมเครื่องหมายการค้าและละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อสุดสัปดาห์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมแสดงความเห็นว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ และเสนอแนะว่า กรมควรไปทำการสอบสวนคดีพิเศษอื่นๆ คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า 

กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงต่อสาธารณชนว่า การกระทำความผิดอาญาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา อันประกอบด้วย ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ที่มีความรุนแรงต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้ประเทศไทยตกเป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ทางการค้าของประเทศในด้านต่างๆ

ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ได้กำหนดให้ความผิดในเรื่องดังกล่าว ที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ หรือที่กระทำเป็นลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ องค์กรอาชญากรรม รวมถึงที่มีผู้มีอิทธิพลที่สำคัญอยู่เบื้องหลังการกระทำผิด เป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ 

ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการปราบปรามจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นคดีพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับองค์กรเอกชนหลายองค์กร รวมถึงผู้แทนผู้เสียหายทั้งในและต่างประเทศ จนเมื่อ พ.ศ.2560 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปลดประเทศไทยพ้นจากประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามความผิดประเภทนี้อย่างต่อเนื่องของทุกฝ่าย และกรมสอบสวนคดีพิเศษยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง 

Advertisement

ซึ่งในการปราบปรามจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามที่เป็นข่าว มีมูลค่าความเสียหาย หากคำนวณตามมูลค่าสินค้าแท้เป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท จึงอยู่ในข่ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษและตั้งข้อสังเกต 

ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีโอกาสชี้แจงอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงาน อันจะทำให้สาธารณชนที่ติดตามข่าวสารได้ทราบและเข้าใจบทบาทและภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับงานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาดียิ่งขึ้น

อนึ่ง สำหรับประเด็นข้อเสนอแนะที่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งทำคดีพิเศษอื่นๆ นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่า กรมมีการเร่งรัดดำเนินการในทุกคดี โดยมีคณะกรรมการระดับกรมกำกับติดตาม และต้องรายงานข้อมูลด้านคดีต่อคณะกรรมการคดีพิเศษด้วย เพียงแต่ที่ผ่านมากรมไม่ได้มีการเสนอข่าวต่อสาธารณชน ซึ่งนับจนถึงปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสืบสวนคดีพิเศษเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 2,500 คดี

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า สิ่งที่ดีเอสไอดำเนินการเป็นอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ และเป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อผู้ร้องหรือเจ้าของลิขสิทธิ์มาร้องดีเอสไอ ดีเอสไอก็ต้องทำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image