เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมศาลยุติธรรม ชั้น 5 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบในการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการในวาระของวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โดยมี 3 บัญชี ประกอบด้วยบัญชีผู้พิพากษาอาวุโสสับเปลี่ยนตำแหน่ง 51 ราย บัญชีแต่งตั้งผู้พิพากษาอาวุโส 86 ราย และบัญชีสับเปลี่ยนตำแหน่ง 1 ราย
สำหรับบัญชีผู้พิพากษาอาวุโสสับเปลี่ยนตำแหน่งมีรายชื่อที่น่าสนใจ ดังนี้ นายไพโรจน์ วายุภาพ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ภาค 1, นายธานิศ เกศวพิทักษ์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์, นายศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์, นายอำนาจ พวงชมภู ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์
บัญชีแต่งตั้งผู้พิพากษาอาวุโสที่น่าสนใจ ได้แก่ นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานศาลอุทธรณ์ เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์, นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง รองประธานศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายโสภณ โรจน์อนนท์ รองประธานศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายพรเทพ อัมพรกลิ่นแก้ว รองประธานศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายพิศล พิรุณ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายนิพนธ์ ใจสำราญ ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายสุนทร ทรงฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายทวี ประจวบลาภ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และนายประยูร ณ ระนอง ประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
ส่วนที่มีการสับเปลี่ยนตำแหน่ง น่าสนใจที่สุดในบัญชีคราวนี้คือ นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย รองประธานศาลฎีกา เป็นประธานศาลอุทธรณ์ ทั้งนี้ ทุกตำแหน่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เช่นระดับประธานแผนกและหัวหน้าคณะในศาลฎีกา รวมถึงระดับอธิบดีศาลก็จะมีการพิจารณาในการประชุม ก.ต.ครั้งต่อไป โดยจะมีการประชุม ก.ต. ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 13/2561 ในวันจันทร์ที่ 6 ส.ค. 2561 เวลา 9.30 น.
สำหรับประวัตินางอุบลรัตน์ เกิดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2497 อายุ 64 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา การรับราชการสอบได้เป็นพนักงานอัยการเมื่อปี 2522 จากนั้นสอบติดเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา ปี 2523 ดำรงตำแหน่งตั้งแต่เป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดน่าน, ผู้พิพากษาศาลแขวงลำปาง, ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหนองคาย, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญากรุงเทพใต้, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์, รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา และรองประธานศาลฎีกา ตามลำดับ ซึ่งในการรับตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ของนางอุบลรัตน์ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ถือว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์นั้นถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีความอาวุโสลำดับ 2 รองลงมาจากประธานศาลฎีกา และยังเป็นอุปนายกเนติบัณฑิตยสภา คนที่ 1 โดยตำแหน่ง
