เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวในสื่งงอมวลชนว่า ชายวัย 59 ปี ร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชายวัย 41 ปี ถูกตำรวจ สน.สุทธิสาร กลุ่มหนึ่ง ตรวจค้นตัวขณะที่อยู่ที่ชุมชนแห่งหนึ่ง หลังค้นอยู่นานไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ลูกชายก็ไม่พอใจที่ถูกยั่วยุและพยายามยัดข้อหา จึงชกเข้าที่ใบหน้าของตำรวจนายหนึ่ง ก่อนจะถูกคุมตัวไปที่โรงพัก ปรากฎว่าระหว่างนั้น ตำรวจชุดดังกล่าวก็เเจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย 20 เม็ด เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งเเต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 โดยชายคนดังกล่าว ยอมรับข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน แต่ให้การปฏิเสธคดีมียาบ้า ตั้งแต่ชั้นสอบสวนและอัยการและชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น ระหว่างการต่อสู้คดีถูกขังอยู่ก่อนคำพิพากษานาน 10 เดือน ระหว่างนี้พ่อของเขาพยายามหาทางช่วยขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย จนพบว่าจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิด ซึ่งได้กลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ทำให้ต่อมาศาลชั้นต้น เห็นพฤติกรรมขณะเกิดเหตุทั้งหมด รวมทั้งในการตรวจค้นครั้งแรกก็ไม่พบยาบ้าของกลางที่นำมาตั้งข้อหาด้วย จึงพิพากษายกฟ้องจำเลย และศาลอุธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้อง ก่อนที่จำเลยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระภาพ”นั้น
รองโฆษกตร. กล่าวว่า รับรายงานจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ว่า พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ได้มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ปราศรัย จิตตสนธิ รอง ผบก.น.2 เป็นประธานกรรมการสอบสวน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็วและรายงานผลขึ้นมาตามลำดับชั้น
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ผบ.ตร.กำชับให้ ดำเนินการด้วยความ รอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือ กระทำความผิดตามที่เป็นข่าว ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
“ผบ.ตร. ได้สั่งการมาโดยตลอด ตำรวจต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วไปปฏิบัติหน้าที่เหลื่อมล้ำกับกฎหมาย กลั่นแกล้งประชาชน โดยหากเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ทาง ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ไม่เลี้ยงไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากพบการกระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและอาญา เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อองค์กร ต้องเร่งสะสางความผิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดเสียเองเพื่อสร้างความเป็นธรรมและเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน”พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว