นอนคุกยาว!ศาลอาญาทุจริตไม่ให้ประกัน ‘อดีตพระธงชัย -อดีตเถระ -ฆราวาส’ ฟอกเงินทอนวัด ชี้เป็นขบวนการฮุบงบรัฐเรื่องร้ายแรง

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต 1 ได้นำสำนวนเอกสารหลักฐาน ยื่นฟ้อง นายเอื้อน กลิ่นสาลี อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และนายสมทรง อรรถกฤษณ์ อดีตพระอรรถกิจโสภณ อดีตเลขาฯเจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยา เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (ฟ้องอดีตเจ้าอาวาส) และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ , ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีร่วมกันฟอกเงิน จากการทุจริตเงินทอนวัดในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม

โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข อท.196/2561 ซึ่งการยื่นฟ้องวันนี้ อัยการไม่ได้คัดค้านการให้ประกันตัวแต่ให้เป็นดุลยพินิจของศาล ขณะที่อดีตพระเถระทั้งสอง ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขังและวันนี้ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย ก็ไม่ได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฟ้องคดีนี้แต่อย่างใด ตัวจำเลยจึงยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำต่อไป

และเช้าวันเดียวกัน พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ก็ได้ยื่นฟ้อง นายธงชัย สุขโข อดีตพระพรหมสิทธิ หรือธงชัย สุขญาโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , นายบุญทวี คำมา อดีตพระศรีคุณาภรณ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , นายสมจิตร จันทร์ศรี อดีตพระครูสิริวิหารการ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , นายเทอด วงศ์ชอุ่ม อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , นายสังคม สังฆะพัฒน์ อดีตพระเมธีสุทธิกรและอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ , น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านร่วมรับโอนเงิน 25 ล้านบาท , นายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ และ น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา(มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์) เป็นจำเลยที่ 1-8 เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5), ,มาตรา 5 (1)(2)(3) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 91 กรณีร่วมกันฟอกเงิน การทุจริตเงินทอนวัดในส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนา

โดยปัจจุบันอดีตพระเถระและฆราวาสทั้ง 8 ราย ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางระหว่างการฝากขังซึ่งก็ไม่ได้รับการประกันตัวเช่นกัน อย่างไรก็ดี ศาลอาญาคดีทุจริตกลางฯ ได้ประทับรับฟ้องไว้ เป็นคดีหมายเลขดำ อท.197/2561

Advertisement

ขณะที่วันนี้จำเลยทั้ง 8 ราย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฟ้องคดีนี้ ซึ่งศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของจำเลยทั้ง 8 ราย โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพฤติการณ์กระทำความผิดของจำเลยกับพวกมีลักษณะร่วมกันกระทำความผิด เป็นขบวนการโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน ความเสียหายเป็นเงินจำนวนสูง อีกทั้งยังเป็นการกระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนา พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงและความผิดตามฟ้องมีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก็มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จำเลยกับพวกจะหลบหนี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศและคณะอดีตพระเถระฯกับฆราวาสแล้วทั้งหมดจึงยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image