‘พิชัย’ โต้โพสต์ปกไทม์บริสุทธิ์ ยัน พท.แก้ พรบ.คอมฯไม่ให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.กระทรวงพลังงาน สังกัดพรรคเพื่อไทย พร้อมนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิลักษณ์ หวังสิริวรกุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก. ปอท.พนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเท็จตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ที่มี พ.อ. บุรินทร์ ทองประไพ ตัวแทนฝ่ายกฎหมายคสช. เป็นผู้รับมอบอำนาจในการออกหมายเรียก โดยมีประชาชนผู้สนับสนุนรอให้การต้อนรับ

นายพิชัยกล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งมองแล้วคดีที่ตนโพสต์เฟซบุ๊กนิตยสารไทม์ฉบับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมระบุว่าถูกสั่งแบนห้ามขาย เป็นความผิดที่ค่อนข้างจะเลื่อนลอย หากใครจำได้ ตนก็เคยแปลและอธิบายไปแล้ว

นายพิชัยกล่าวอีกว่า ตนให้คนไปซื้อนิตยสารไทม์ฉบับดังกล่าว แต่ปรากฏว่า หาซื้อตามร้านหนังสือใหญ่ไม่ได้ โดยทราบจากทางร้านมาว่าขายไม่ได้ เพราะเนื้อหาไม่เหมาะสม ตนเห็นว่าไม่มีการวางขายอยู่จริง จึงนำภาพดังกล่าวซึ่งก็ไม่ได้ทำเองแต่นำของคนอื่นมาโพสต์ โดยก็ไม่ได้มีข้อความที่บอกว่า คสช.สั่งห้ามขาย ส่วนอีกข้อหาที่ถูกแจ้งความ คือกรณีที่ตนเข้าไปสัมมนาภาคประชาชนเรื่องการดูด ส.ส. 4.0 ต่างไปจากสมัยก่อนที่นอกจากจะมีเรื่องของเงินและตำแหน่งแล้ว ยังมีการข่มขู่เรื่องคดีความ การยุบพรรค รวมถึงการฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่า คสช.เป็นคนดูด อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงว่า ปัจจัยต่างๆ ในการดูด ส.ส. เช่นการใช้เงินจำนวนมากซึ่งไม่รู้ว่ามาจากไหน จะทำให้เกิดการเข้าไปถอนทุนหรือไม่ ยิ่งจะเพิ่มการทุจริตให้มากขึ้น โดยนายพิชัยกล่าวขอขอบคุณนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชน พฤษภา 35 ที่ได้ออกมาปกป้องและชี้แจงแทนตน ในเรื่องการสัมนาดังกล่าว

“มีประชาชนหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะมองว่าอาจเป็นปัญหากับกลุ่มคนที่เห็นต่าง ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีแนวคิดจะแก้ไขเพื่อไม่ให้นำกฎหมายนี้มาเล่นงานทางการเมือง เราควรที่จะส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาประเทศ ไม่ใช่เอามาถ่วงความเจริญ ผมเป็นห่วงว่าการกดดันเสรีภาพของผู้คนจะทำให้ไม่เกิดความคิดสร้างสรรค์จนบรรยากาศการลงทุนหายไป เป็นปัญหาของประเทศในปัจจุบัน” นายพิชัย กล่าว และว่า ขณะนี้การดูด ส.ส.ของกลุ่มสามมิตรยังคงการดำเนินการเรื่องการเมือง แต่พรรคการเมืองอื่นไม่สามารถทำได้ โดยนายพิชัยได้ถามกลับอีกว่า คนดูดทำได้ คนวิจารณ์ถูกดำเนินคดี ใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่

Advertisement

ขณะที่นายนรินท์พงศ์ ทนายความกล่าวว่า สิ่งที่นายพิชัยโพสต์ไม่ได้มีอะไรที่เป็นเท็จ แต่การนำ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาใช้มองว่าเป็นการจำกัดสิทธิ จะนำพยานหลักฐานมาหักล้าง และเชื่อมั่นว่าทุกอย่างกำลังจะสดใสขึ้น หวังว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรม

 

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image