ประหาร-ปรับ2.4 ล้าน แก๊งค้าไอซ์ข้ามชาติ “4ไต้หวัน-ไทย-มาเลย์” สารภาพ 2 คนเหลือคุกตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาแก๊งยาเสพติดข้ามชาติสัญชาติไต้หวัน-มาเลเซีย ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเซียง หมี่ ซื่อ หรือจิมมี่ หรือเก็กกอ เถ้าแก่ภาคเหนือ อายุ 70 ปี สัญชาติไต้หวัน ,น.ส.วิภารัตน์ การดี อายุ 51 ปี สัญชาติไทย ชาวเชียงใหม่ , นายตัน ฮัน เซียง หรือาตัน สัญชาติมาเลเซีย และนางวลัยพรรณ เพ็ชรพงษ์ หรือเจ้ฟ่ง หรือฟ่งเจี่ย อายุ 66 ปี สัญชาติไทย ชาวเชียงราย ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน , สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด , มีเมทแอมเฟตามีน ยาเสพติดประเภทยาไอซ์ ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4,7,8,15,66,100/1,102 กับ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3,4,8,10,14 ประกอบประมวลกฎหมายกฎหมายอาญา มาตรา 32,33,83

ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวัน-เวลาใดไม่ปรากฏชัด ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2559 จำเลยทั้งสี่ และนายชาง คิม ซุย , นายลิม เยียน ฮุย สองจำเลยที่ถูกศาลอาญานี้พิพากษาลงโทษไปแล้ว กับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยร่วมกันวางแผนจัดหา ครอบครอง เก็บรักษา ลำเลียง ยาเสพติดแล้วนำไปส่งมอบให้ลูกค้า รวมทั้งร่วมกันจัดการบริหารเงินซื้อขายยาเสพติดที่ได้กระทำลงไปหลายครั้ง โดยจำเลยที่ 1-4 เป็นผู้ประสานงาน จัดหายาเสพติดและติดต่อกับผู้ลำเลียงยาเสพติดเพื่อนำไปส่งมอบให้ลูกค้า ด้วยการให้นายชาง คิม ซุย , นายลิม เยียน ฮุย เป็นผู้ทำหน้าที่ลำเลียงและนำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของจำเลยที่ 1-4 กระทั่งวันที่ 29 มีนาคม 2559 เวลา 18.00 น. เจ้าพนักงานสามารถจับกุม นายชาง คิม ซุย , นายลิม เยียน ฮุย ได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ชนิดผลึกสีขาว 282 กิโลกรัม ที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามได้สมคบกับจำเลยทั้งสี่ ซึ่งมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2560 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยทั้งสี่ได้ พร้อมยึดมือถือที่ใช้นัดหมายตกลงวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำ เหตุเกิดที่ ต.หาดใหญ่ , ต.สำนักขาม , ต.คลองหลา ใน อ.สะเดา ,อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ , ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โดยระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล จำเลยทั้งสี่ไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งนายเซียง หมี่ ซื่อ สัญชาติไต้หวัน จำเลยที่ 1 และนายตัน ฮัน เซียง หรือาตัน สัญชาติมาเลเซีย จำเลยที่ 3 ถูกคุมขังในสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.วิภารัตน์ ชาวเชียงใหม่ จำเลยที่ 2 และนางวลัยพรรณหรือเจ้ฟ่ง ชาวเชียงราย จำเลยที่ 4 ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง

ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานตามฟ้องและทางนำสืบโจทก์แล้ว รับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-4 เป็นความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม(2) ,66 วรรคสาม , พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง , 118 ซึ่งการกระทำนั้นเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

Advertisement

จึงพิพากษา ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1-4 ฐานมียาไอซ์ เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ,ฐานพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ก็ให้จำคุกตลอดชีวิต และปรับคนละ 2 ล้านบาท , ฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย ให้จำคุกอีกคนละ 20 ปี และปรับคนละ 400,000 บาท , ฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครบครองให้จำคุกอีก 2 ปี โดยจำเลยที่ 1-2 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง จึงคงจำคุกตลอดชีวิต นายเซียง หมี่ ซื่อ สัญชาติไต้หวัน จำเลยที่ 1 และน.ส.วิภารัตน์ ชาวเชียงใหม่ จำเลยที่ 2 และปรับคนละ1.2 ล้านบาท

ส่วนนายตัน ฮัน เซียง หรือาตัน สัญชาติมาเลเซีย จำเลยที่ 3 กับนางวลัยพรรณหรือเจ้ฟ่ง ชาวเชียงราย จำเลยที่ 4 ที่ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี คงโทษประหารชีวิตและปรับ 2.4 ล้านบาท พร้อมมีคำสั่งให้ริบโทรศัพท์มือถือและอาวุธปืนของกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแก๊งค้ายาข้ามชาติดังกล่าว ทาง ปปส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสืบสวนพยานหลักฐานเชื่อมโยงได้ทั้งกลุ่มผู้ค้ายาชาวไต้หวัน , มาเลเซีย จนสามารถติดตามจับกุม นายเซียง หมี่ ซื่อ หรือเถ้าแก่ภาคเหนือ สัญชาติไต้หวัน และน.ส.วิภารัตน์ ชาวเชียงใหม่ จำเลยที่ 1-2 ได้ที่บ้านพัก จ.เชียงใหม่ , นายตัน ฮัน เซียง หรือาตัน สัญชาติมาเลเซีย จำเลยที่ 3 ถูกจับกุมที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนนางวลัยพรรณหรือเจ้ฟ่ง ชาวเชียงราย จำเลยที่ 4 ถูกจับกุมที่บ้านพัก จ.เชียงราย พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดี และยังได้มีอายัดทรัพย์สินหลายรายการทั้งธนบัตรสกุลเงินต่างๆ , บ้านพัก , บ้านพักพร้อมที่ดิน , รถยนต์ , รถจักรยานยนต์ มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image