ทนายขอกองทัพถอนบังคับคดียึดทรัพย์ นปช.ถูกยิงปี’52 ชี้ทำคนรู้สึกไม่ดีทหาร

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นายคารม พลพรกลาง ทนายความของนายไสว ทองอ้ม ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ได้รับบาดเจ็บจนพิการจากการถูกกระสุนปืนในเหตุการณ์สลายการชุมนุม นปช.ปี 2552 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไสวถูกศาลฎีกาพิพากษาคดีแพ่งให้จ่ายค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความเป็นเงิน 212,114 บาท ให้กองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบกว่า คดีนี้นายไสว และนายสนอง พานทอง ผู้ชุมนุม นปช.ที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นโจทก์ฟ้องแพ่งเรียกค่าชดเชยจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมต่อสำนักนายกรัฐมนตรี, กองบัญชาการกองทัพไทย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และกองทัพบก เป็นจำเลย ศาลรับฟ้องจำเลย 2 รายคือกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบก ซึ่งในศาลชั้นต้นโจทก์ชนะคดี พิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง

นายคารมกล่าวต่อไปว่า ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่ากระสุนที่ผู้ชุมนุมถูกยิงเป็นกระสุนปืนสั้น ซึ่งทหารที่สลายการชุมนุมไม่ได้ถือในวันดังกล่าว และสั่งให้จ่ายค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแทนจำเลย ทนายความของจำเลยก็เป็นพนักงานอัยการว่าความให้ พอเรายื่นฎีกาแล้วได้ขอดำเนินคดีแบบยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลด้วย ศาลฎีกาก็พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์โดยไม่ได้แตะเรื่องค่าธรรมเนียม ทำให้โจทก์กลายเป็นหนี้ค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความจำเลย จำนวน 212,114 บาท กรณีแบบนี้เราก็ไม่เคยเจอ รู้สึกว่าไม่ควรให้ชาวบ้านต้องมาชดใช้

สำหรับการบังคับคดีนั้น นายคารมกล่าวว่า ตามกฎหมายการบังคับคดีเป็นสิทธิของทางกองทัพ ซึ่งจะเลือกบังคับคดีหรือไม่บังคับคดีก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบังคับคดีเสมอไป แต่ปรากฏว่ามีการบังคับคดีโดยอายัดบัญชีนายไสวและยึดที่ดิน 8 ไร่ไปชดใช้ ตนคิดว่าไม่เหมาะสมที่ทหารมายึดทรัพย์ผู้ชุมนุมซึ่งมาแสวงหาความเป็นธรรม ควรสละไม่บังคับคดีจะดีที่สุด มิฉะนั้นต่อไปคนก็ไม่กล้าฟ้อง หลังจากนี้ก็มีแนวทางคือ 1.พยายามเรี่ยไรเงินมาช่วยชำระหนี้แทนให้กองทัพ 2.ขอให้กองทัพถอนการบังคับคดี อยากให้เป็นแนวทางหลัง ไม่อยากให้ถูกยึด เพราะชาวบ้านรู้สึกไม่ดีเหมือนเป็นการรังแกชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่าศาลได้ให้เหตุผลในการสั่งให้โจทก์ชดใช้กองทัพไว้หรือไม่อย่างไร นายคารมกล่าวว่า ไม่ได้ให้เหตุผล ซึ่งสามารถที่จะไม่สั่งให้ชดใช้ก็ได้

Advertisement

นายคารมกล่าวว่า เรื่องนี้ทหารเป็นคู่กรณี นายไสวถูกยิงได้รับบาดเจ็บจริง ส่วนนายสนองขณะนี้ติดตามตัวไม่ได้แล้ว ไม่อยากให้ยึดทรัพย์เล็กน้อยกับประชาชนเลย ทหารมีโอกาสหาเงินได้เยอะแยะ เป็นการสร้างความน่าสงสัยให้กับประชาชน คนที่ยึดไม่ใช่ศาล ถ้าโจทก์ไม่นำยึดก็จบ การที่ทหารทำแบบนี้ไม่สร้างความรู้สึกที่ดี เมื่อศาลมองว่าทหารไม่มีความผิดพิพากษายกฟ้องก็จบ แต่การมายึดทรัพย์ชดใช้ค่าธรรมเนียมค่าทนายความ ชาวบ้านเห็นว่าไม่ควร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image