จากกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 51 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะนั่งรถยนต์เลกซัส สีดำ แอลเอ็กซ์ 470 ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นคนขับและเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ตรงข้ามซอย 61 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตสวนหลวง เสียชีวิต ต่อมาญาติตรวจสอบพบว่า นายชูวงษ์โอนหุ้นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ให้กับผู้หญิง 2 คนที่ญาติเชื่อว่าเป็นคนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.บรรยิน จนทำให้เชื่อว่าการเสียชีวิตดังกล่าวของนายชูวงษ์น่าจะมีเงื่อนงำหรือเป็นการจัดฉากฆาตกรรมอำพรางจนมีการตรวจสอบและดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.บรรยินและพวกนั้น
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ต.ท.บรรยินกล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีร่วมกันฟอกเงิน ทั้งนี้เป็นคดีที่สืบเนื่องจากมาจากคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ เสี่ยจืด ซึ่งจะเดินทางมาในช่วงเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดยตนได้ตั้งข้อสังเกต 2 ข้อด้วยกัน คือ 1.ภายหลังการรวบรวมคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯมีความเห็นสั่งฟ้อง แต่ทางอัยการสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือแย้งทางอัยการสูงสุดจึงกลับสั่งฟ้องอีกครั้ง 2.ทำไมระยะเวลาคดีตั้ง 3 ปี อยู่ๆ ทางเจ้าหน้าที่ ปปง.และเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเพิ่งมาดำเนินการตอนนี้ ส่วนในรายละเอียดคดีต่างๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้