เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)และพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. รอง ผอ.ศูนย์ฯ ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารธนชาตช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งโรแมนซ์สแกม สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงและโอนไปยัง บัญชีของกลุ่มคนร้ายแล้วระงับไม่ให้สามารถถอนเงินออกไป และนำเงินคืนให้กับผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย รวมเป็นเงิน 1,890,358.40 บาท โดยผู้เสียหายคดีของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 1,722,000 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 1,355,358.40 บาท ผู้เสียหายคดีของ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 35,000 บาท เจ้าหน้าที่อายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทั้งหมด
ผู้เสียหายคดีของ สน.เพชรเกษม ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 1,175,300 บาท เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 500,000 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าสรุปจากการผลการปฏิบัติงานในการอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากแก็งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงไปยังบัญชีคนร้าย สามารถอายัดเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ จำนวน 119 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,613,671.43 บาท ผลการปฏิบัติงานในการอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกลวงไปยังบัญชีคนร้าย สามารถอายัดเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ จำนวน 8 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,999,889.10 บาท จากสถิติการรับแจ้งเหตุคดีคอลเซ็นเตอร์ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) รับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 61 จำนวน 495 คดี มูลค่าความเสียหาย 255,090,638.04 บาท
จากสถิติการรับแจ้งเหตุคดีโรแมนซ์สแกมของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) รับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน-26 สิงหาคม จำนวน 107 คดี มูลค่าความเสียหาย 72,540,175 บาท
