เจ้าของบ.ขนส่งปัดเอี่ยว’มู่หลาน’ เจ้าแม่ค้าไม้พะยูง เผยตรวจดีเอ็นเอไม้คืบหน้า80%

เมื่อเวลา 11.30น. วันที่ 5 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการบก.ปทส. กล่าวถึงกรณีขบวนการข้ามชาติลักลอบแปรรูปไม้มีค่าเพื่อเตรียมนำส่งออกนอกราชอาณาจักรที่มี น.ส.ชลิดา สุพันธมาส หรือ มู่หลาน อดีตผู้เข้าแข่งขันประกวดรายการไทยแลนด์ก๊อดทาเลนท์เมื่อปี 2556 พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการค้าไม้หายากดังกล่าว

โดย พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า จากพฤติการณ์ของน.ส.ชลิดา พบการกระทำผิดในหลายท้องที่ จึงได้มอบหมายไปยังผู้กำกับ2 สืบสวนขยายผลว่านางมู่หลานมีความผิดในท้องที่ใดบ้าง และพบว่าตู้คอนเทนเนอร์ในที่เกิดเหตุที่แหลมฉบังมีบริษัทบุญรอดเป็นผู้ส่งออกรายเดียวกัน เมื่อตรวจสอบภายในก็พบเป็นไม้หวงห้ามจึงได้อายัดไว้ดำเนินคดี โดยในวันที่มีการตรวจยึด นายสนั่นเองก็ไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย

“เพื่อให้พิสูจน์ได้ว่าเป็นขบวนการเดียวกัน ทางบก.ปทส.จึงได้รับเรื่องมาทำการสืบสวน เพราะหากส่งให้สภ.แหลมฉบัง ก็ต่างคนต่างทำจึงรับมาเพื่อให้เชื่อมโยงกัน เมื่อเสร็จแล้วหากพบว่าทำเป็นขบวนการ ทางปทส.ก็จะนำเรื่องมาสอบสวนดำเนินคดีร่วมกับสภ.บางปูด้วย หากพิจารณาแล้วไม่สามารถส่งได้ก็จะให้สภ.แหลมฉบังตรวจสอบ” พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวและว่า ต้องรอผลการตรวจสอบดีเอ็นเอไม้จากแหลมฉบังกับที่บางปูจากผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้ก่อน ซึ่งขณะนี้ก็ 80% แล้ว สำหรับความชัดเจนของระยะเวลาก็ต้องสอบถามยังผู้เชี่ยวชาญต่อไป

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับการสืบสวนความเชื่อมโยงระหว่างบริษัทบุญรอดกับเครือข่ายนั้น ตนได้รายงานไปแล้วหากบริสุทธิ์ใจจริงก็ต้องมาให้ข้อมูลว่าน.ส.ชลิดา นำชื่อบริษัทฯไปใช้ได้อย่างไร ต้องไปดูรายละเอียดขั้นตอนว่าจะมีใครสามารถสวมชื่อมาใช้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียกกับบริษัทบุญรอดให้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด

Advertisement

“เราต้องรับฟังเขาก่อน เพราะกรณีการปิดตู้ คนที่ไปปิดก็ต้องรู้ว่าข้างในเป็นไม้ ต้องไปตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากมีการสำแดงเท็จ อีกทั้งในการประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของน.ส.ชลิดา ต้องผ่านกับกรมป่าไม้ ตอนนี้ยังไม่รู้ถึงขั้นที่ว่ามีการทำธุรกรรมแทนกันหรือไม่” ผู้บังคับการ บก.ปทส.กล่าว

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวถึงพฤติการณ์ของ น.ส.ชลิดาว่า มีการใช้นอมินีคนไทยไปเปิดโรงงานแปรรูปไม้ตามพื้นที่ต่างๆ เช่นในจังหวัดชัยนาท ก่อนจะลักลอบส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีปลายทางที่ประเทศจีน ส่วนแหล่งหาไม้จะเป็นในพื้นที่ภาคอีสานและภาค 1

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวต่อว่า น.ส.ชลิดา ที่มีเชื้อชาติจีนแต่เดิมมีคดีสวมบัตรประชาชนในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้สอบสวนดำเนินคดีไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 จะให้การรื้อฟื้นคดีขึ้นมาว่าเหตุใดที่บัตรประชาชนของน.ส.ชลิดา ยังใช้การได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ว่าน.ส.ชลิดาได้เดินทางออกนอกประเทศไทยไปแล้วแต่อย่างใด

Advertisement

จากนั้น นายสนั่น บุญรอด กรรมการบริหารบริษัท บุญรอด อิมปอร์ตแอนด์ เอ็กซ์ปอร์ต ได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ ภายหลังพบว่าบริษัทฯมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ให้ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ โดยนายสนั่น กล่าวว่าเพิ่งจะทราบเรื่องตอนที่นางมู่หลานโดนจับกุมว่าสวมชื่อแอบอ้าง ตอนนี้พอจะมีหลักฐานนำไปขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องรอให้ตำรวจสืบสวนต่อไป ขอยืนยันว่าบริษัทฯ ได้ส่งออกสิ่งของถูกกฎหมายทั่วไปและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนไม้ผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม นายสนั่น กล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้มีคนในบริษัทฯเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะมีรายชื่อปรากฎในเอกสารของกรมศุลกากรอยู่แล้ว ตนคาดว่ามีผู้แอบอ้างไปทำ เพราะสามารถนำไปยื่นต่อกรมศุลกากรได้โดยใช้เลขประจำตัวของผู้ออกเอกสาร ต้องสาวไปถึงว่าใครไปเป็นจองตู้ เสร็จแล้วก็ต้องติดต่อไปถึงผู้ค้าไม้เพื่อนำตู้ไปบรรจุลงเรือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image