แม่ยายร้องป.เขยวัย 14 ปีฟ้องยักยอกหวย 12 ล้าน ศาลยกฟ้อง แต่คดีค้าง 2 โรงพัก

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 11 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ในข้อหาแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และพรากผู้เยาว์ หลังก่อนหน้านี้ได้ถูก ด.ช.เอ กล่าวหาว่าเป็นผู้ยักยอกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เมษายน 2561 มูลค่า 12 ล้านบาทไป จนต้องถูกดำเนินคดี

นายรณรงค์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับทราบข้อมูลว่านางมานิตย์นั้นได้ถูก ด.ช.เอ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.บี บุตรสาวของนางมานิตย์ กล่าวหาว่าเป็นผู้ยักยอกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เมษายน 2561 มูลค่า 12 ล้านบาทไปขึ้นเงิน จนทำให้นางมานิตย์นั้นต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีและต้องทนทุกข์ทางคดีมาโดยตลอด โดยมีการแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา และ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังถูก ด.ช.เอ ฟ้องศาลจังหวัดนางรองเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีกเช่นกัน โดยมีแม่ของ ด.ช.เอ เป็นผู้ดำเนินการทุกอย่าง

นายรณรงค์กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของคดีความนั้นเบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้คดีที่ ด.ช.เอ ฟ้องศาลเองนั้น ทางศาลได้มีการสั่งยกฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะพิสูจน์ไม่ได้ว่าหวยมีอยู่จริง แต่เมื่อตรวจสอบจากกองสลากก็พบว่าเลขชุดนี้มีคนมาขึ้นเงินจริงแต่ไม่มีชื่อคนในครอบครัวหรือใครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเลย แต่ยังคงเหลือคดีความที่ สภ.ห้วยแถลง และ สภ.หนองหงส์ ที่ยังค้างคาอีก 2 คดี จึงทำให้นางมานิตย์เกิดความเครียดเป็นอย่างมาก เพราะตัวนางมานิตย์เองเป็นแค่ชาวนายากจนไม่มีเงินที่จะต้องไปสู้คดี ด้วยเหตุนี้ตนจึงได้พานางมานิตย์เข้ามาร้อขอความเป็นธรรมกับทางตำรวจกองปราบเพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบคดีดังกล่าว และต้องการให้ตำรวจกองปราบช่วยดำเนินคดีกับลูกเขยในข้อหาแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ และอาจพ่วงข้อหาพรากผู้เยาว์ เพราะลูกสาวของคุณป้ายังมีอายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น

ด้านนางมานิตย์กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เคยเอาหวยไป เพราะหวยดังกล่าวไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำว่ามีอยู่จริงหรือไม่ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีปัญหากับ ด.ช.เอ ลูกเขย มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการที่ตนต้องการให้ลูกเขยมาขอลูกสาวแต่งงานให้ถูกต้องตามหลักประเพณี จึงน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตนเองถูกกลั่นแกล้งดังกล่าว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์โดนฟ้องร้อง ตนยอมรับว่ายังไม่ได้พูดคุยกับลูกสาวอีกเลย และยังต้องไปขึ้นศาลตามหมายเรียกหลายครั้ง ตนเป็นแค่ชาวบ้านจนๆ ธรรมดา จะไปมีเงินที่ไหนจ้างทนายมาสู้คดี จึงทำให้รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังกลัวด้วยว่าฝ่ายลูกเขยจะมาทำร้ายเพราะคิดว่าตนเอาหวยดังกล่าวไป

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ป.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ก่อนทำการสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำมาวิเคราะห์พิจารณาควบคู่ไปกับพยานหลักฐานที่ผู้ร้องนำมามอบให้ ก่อนส่งต่อเรื่องให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการดำเนินการต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image