ไฟไหม้บ้าน ซ.พหลโยธิน 24 เศร้า! คลอกนักศึกษาสาวหอการค้าดับ

เมื่อวันที่ 24 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอยพหลโยธิน 24 แยก 2 มีลักษณะเป็นบ้านเช่าผสมระหว่างไม้และปูนปลูกขึ้น 2 ชั้น ปลูกติดกัน 7 คูหา เพลิงได้ลุกไหม้จากบ้านต้นเพลิงไปยังบ้านใกล้เคียงเสียหายรวม 4 หลังคาเรือน

ภายหลังจากเพลิงไหม้สงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง 1 ราย สืบทราบว่าเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยถูกไฟคลอกเสียชีวิตในกองเพลิง

จากการสอบถามป้าของผู้เสียชีวิตระบุว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีบิดาและมารดาของน้องพิงค์ (ผู้เสียชีวิต) พักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยย้ายที่อยู่และเข้าพักในบ้านหลังดังกล่าวราวประมาณ 20 ปี เนื่องจากการเดินทางเข้าออกค่อนข้างสะดวก โดยเมื่อช่วงเช้า น้องพิงค์กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้านคนเดียว เนื่องจากรอเวลาเข้าเรียนในช่วงบ่ายของวัน ส่วนมารดาประกอบอาชีพค้าขายและได้ออกไปขายของที่ตลาดตามปกติ จากนั้นตนได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้แถวที่พักอาศัย จึงรีบกลับมาดู แล้วพบว่าเพลิงไฟได้ลุกไหม้บ้านเสียหายไปทั้งหลังคาเรือน ทำให้น้องพิงค์ที่นอนอยู่ในบ้านเสียชีวิต ขณะที่มารดาของผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าและยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้

ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นพบเปลวไฟได้ปะทุขึ้นมาบริเวณหลังคาชั้น 2 จากตัวบ้านที่อยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำถังดับเพลิงเข้าไปดับไฟเพื่อป้องกันการลุกลาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตจตุจักรได้แจ้งให้ผู้เสียหายไปดำเนินการแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน เพื่อนำใบแจ้งความไปขอทำบัตรประชาชนใหม่ และขอรับสิทธิการช่วยเหลือต่อไป

Advertisement


ต่อมา นางสาวนวพร พิพัฒน์ธาราพรชัย อายุ71ปี ป้าของผู้ตาย ไม่ได้ประกอบอาชีพ เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุได้เดินเข้าไปในบ้านพร้อมตะโกนหาผู้ตายว่า “น้องพิ้ง น้องพิ้งเอ้ย ไปดีนะลูกหลับให้สบาย นะ”

ด้านนายเวียงเงิน แก้ววงไพร อายุ 47 ปี พ่อของผู้ตายกล่าวว่า ตนและภรรยา คือนาง นภา โชคอวยพรชัย อายุ 59 ปีมีอาชีพขายเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ย่านสะพานควาย ได้มาเช่าบ้านอยู่ที่ซอยพหลโยธิน 24 ได้ประมาณ 20 ปี ตั้งแต่น้องพิ้งยังอยู่ในท้อง และมีลูกเพียงคนเดียว โดยปกติน้องพิ้งจะเป็นคนดี มีนิสัยร่าเริงเหมือนวัยรุ่นทั่วไป เป็นที่รักของบ้านใกล้เรือนเคียง ครอบครัวก็อบอุ่นเป็นปกติ ก่อนหน้าก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ใดๆ ตอนเช้าตนเองก็ออกไปค้าขายกับภรรยาตามปกติ จนมารับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่าที่บ้านไฟไหม้และมาทราบภายหลังว่าน้องเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนนี้ตนได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หมดแล้ว ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปรับศพน้องพิ้งที่นิติเวช รพ.ตร.โดยได้ปรึกษากับทางญาติจะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดสุพรรณซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าน้องพิ้งยังไม่ได้จากไปไหนยังอยู่กับเรา แต่ส่วนภรรยายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image