“อัจฉริยะ”ยื่นหลักฐานอ้างอัยการร่วมล้มคดีเอมี่ ปูดเคลียร์ 7 หลัก ‘อธ.อัยการ’ แจงตร.ส่งสำนวนวันสุดท้ายจึงไม่ทัน!!(คลิป)

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 กันยายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นเอกสารหลักฐานที่พบความไม่ปกติในคดีที่ น.ส. อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตดารานักแสดงชื่อดัง เกี่ยวข้องกับเสพยาเสพติด ต่อนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ นางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และ ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดหลังจาก ที่ได้รวบรวมหลักฐานส่งให้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ไปแล้วเช่นกัน ตามที่กล่าวหาว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3  นาย อัยการ 1 คน และผู้ที่อ้างว่าเป็นอัยการ รวมถึงพลเรือน เกี่ยวข้องกับขบวนการที่ช่วยเหลือในข้อหาที่มีการดำเนินคดีกับดาราสาว

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนนำเอกสารราชการและหลักฐานที่เชื่อว่าอธิบดีอัยการคดียาเสพติด เห็นแล้วจะเข้าใจได้ทันที ส่วนรายละเอียด ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นนั้น ก็มีจำนวนหลายล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยกล่าวถึงเรื่องกุ้งมังกร ราคา 50,000 บาท ไปแล้วทั้งนี้ ยืนยันว่าสาเหตุที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวความบาดหมางระหว่างตนเองกับทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความในคดีนี้ แต่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติ เพราะไม่อยากผู้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดหลุดพ้นคดีไปได้

นายโกศลวัฒน์ กล่าวภายหลังรับเอกสารว่า จากนี้ไปจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ได้รับมา เพื่อดูข้อเท็จจริง โดยก่อนหน้านี้ อัยการเจ้าของสำนวนได้ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงถึงอธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด ซึ่งการตรวจสอบของอัยการ เป็นไปได้ที่อาจจะรอผลจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของบช.น.ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด ได้ประสานเรื่องกับทางบชน.แล้ว และหลังจากนี้ ก็จะเสนอเรื่องให้นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ทราบต่อไปเนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจ โดยหากพบอัยการหรือผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นอัยการ ร่วมกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยพบหลายกรณีที่มีการแอบอ้างว่าเป็นอัยการ แต่ทั้งนี้ การร้องตรวจสอบคดีดังกล่าวจะไม่กระทบต่อตัวความในคดีนี้

Advertisement
ด้าน นางชนิญญา กล่าวว่าในการทำสำนวนคดีนี้ มีการตั้งคณะทำงาน 5 คน ไม่ใช่การสั่งคดีของอัยการเพียงคนเดียว ซึ่งทั้ง 5 คนจะช่วยกันดูสำนวนและพิจารณา และที่ผ่านมาทั้งหมดมีความประพฤติที่ดีและ ไม่เคยมีพฤติการณ์ที่ถูกร้องเรียน โดยยอมรับว่า ทางคณะทำงานที่ตั้งมาได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนในวันที่ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายพอดี ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ซึ่งอัยการก็ได้ยื่นฟ้องจำเลย ตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมา ส่วนเรื่องคดีของดาราสาว และแฟนหนุ่ม ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ได้มีคำพิพากษาลงโทษไว้นั้น จะมีการอุทธรณ์คดีหรือไม่ ขณะนี้อัยการก็เพิ่งจะได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มมา โดยอัยการเจ้าของสำนวนจะต้องพิจารณา และมีความเห็นเสนอตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะต้องมีการขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ไว้ก่อน

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image