ทลาย”แสร้งรักออนไลน์” รวบ 2 ไนจีเรีย ทำหน้าที่โพยก๊วน ร่วมแก๊งไทยตุ๋นเหยื่อ 11 คดี 1.8 ล้าน

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แถลงว่า พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล รรท.ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกประกอบด้วย Mr.Nnamdi Elvis Ezeh , Mr.Ejike Ajelo Martins Junior สัญชาติไนจีเรีย ทำหน้าที่เป็นกลุ่มโพยก๊วนและเป็นผู้สั่งการ น.ส.วันดี ช่องงาม นางเสาวลักษณ์ ออจิ และ น.ส.วาสนา เผ่าพยัคฆ์ ทำหน้าที่เป็นกลุ่มโพยก๊วน
นางมะลิ คชเฉียง นางมนตรา คุ้มหอม นางพันธุ์วิรา คุ้มหอม นายปราโมทย์ คุ้มหอม และ น.ส.อภิวันทน์ ศรีเวียงยา ทำหน้าที่เป็นผู้กดเงิน นายสิทธิชัย อินทรัตน์ นางณัฐนาพร บรีโอเนส นายสุรชาติ วิไลเลิศ น.ส.ศรุตยา เรืองรักษ์ น.ส.กนิษฐา สาระสัย และ น.ส.อัมพวรรณ พุ่มสวย ทำหน้าที่เป็นผู้เปิดบัญชี พร้อมตรวจยึดของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายโรแมนสแกรมหลายรายการ อีกทั้งอายัดเงินในบัญชีของกลุ่มคนร้ายทั้งหมดรวม 29 บัญชี เป็นเงิน 1,623,352.57 บาท โดยผู้ต้องหาทั้งหมดตำรวจ ศปอส.ตร. ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดรายอื่น มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตำรวจ ศปอส.ตร.สืบสวนกลุ่มคนร้ายที่ทำการหลอกลวงผู้เสียหาย จำนวน 11 คดี เหตุเกิดตั้งแต่เดือน มีนาคม – สิงหาคม 2561 รวมความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงิน จำนวน 1,825,000 บาท จนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ตำรวจจับกุมคนร้ายเครือข่ายดังกล่าวทำหน้าที่ถอนเงินที่หลอกลวงจากผู้เสียหาย(ม้ากดเงิน) ได้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และตรวจยึดสมุดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และพยานหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคดีทั้ง 11 คดี โดยขยายผลการจับกุมสู่การขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่าจากการสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติของ ศปอส.ตร. โดยการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มคนร้ายดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ร่วมกันหลอกลวงประชาชนคนไทยด้วยวิธีการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น(แสร้งรักออนไลน์ หรือ ROMANCE SCAM) เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจึงร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ ในลักษณะที่กลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความสะดวกในการกระทำความผิดกฎหมาย และเพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร ,จัดหาบัญชีธนาคาร ,ถอนเงินจากบัญชีธนาคาร ,โทรศัพท์หลอกลวง ,พูดคุยหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก,รับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินอย่างอื่น ฯลฯ ซึ่งในการปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการระดมกวาดล้างผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะ (Romance scam) ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงฝากประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อมวลชนเพื่อแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image