ซิวน้าเขย ข่มขืน 13 ขวบ นาน 2 ปี ปากแข็งแถมหัวร้อนเอาเรื่อง ผอ.ร.ร.ตัวตั้งตัวตีแจ้งความ อ้างด.ญ.ยั่วยวนขืนใจ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ตุลาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป.พ.ต.ท.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ทำการจับกุมตัว นายสมพงษ์ หรือ เขียว จิตหาญ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/199 ซ.ลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี หมายจับที่ จ 286/2561 ลงวันที่ 7 กันยายน 2561 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราแด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเด็กนั้นอยู่ในความปกครองของตน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ภายใน ซอย เพชรเกษม 6 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายสมพงษ์ ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆของภรรยาตนเอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2559 หลังจาก ด.ญ.เอ ผู้เสียหายได้ย้ายมาพักอาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวของผู้ต้องหาที่ ต.โนนกุง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันจนทำให้ไม่มีผู้ส่งเสียเลี้ยงดู ต่อมานายสมพงษ์ ได้อาศัยจังหวะช่วงที่อยู่กับผู้เสียหายเพียงลำพังทำทีออกอุบายพา ด.ญ.เอ ไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ แต่ระหว่างทางกลับใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน ด.ญ.เอ จนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะพูดจาข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อเห็นว่า ด.ญ.เอ ไม่ได้นำเรื่องไปบอกใคร นายสมพงษ์จึงเกิดความชะล่าใจก่อเหตุในลักษณะเดิมซ้ำอีก 8-9 ครั้ง ในช่วงเวลาที่พักอาศัยอยู่ร่วมกันตลอดเกือบ 2 ปี กระทั่งต่อมาทางญาติของ ด.ญ.เอ ที่พักอาศัยอยู่ที่ กทม.ได้ระแคะระคายเรื่องราวดังกล่าว จึงโทรศัพท์มาสอบถาม ด.ญ.เอ จนทราบความจริง ก่อนประสานให้ทาง ผอ.โรงเรียนที่ ด.ญ.เอ เรียนอยู่นั้นช่วยเป็นธุระพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมพงษ์ จนมีการออกหมายจับดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า ภายหลังจากที่มีการออกหมายจับ นายสมพงษ์ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวนนายสมพงษ์ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ด.ญ.เอ ได้ยั่วยวนและพยายามข่มขืนตนเอง แต่ตนเองไม่ยอมเพราะคิดถึงลูกเมีย และตนเองจะเอาเรื่องผู้อำนวยการโรงเรียนให้ถึงที่สุด เพราะพา ด.ญ.เอ ไปแจ้งความโดยพลการ จนทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.โนนกุง จ.อุบลราชธานี เจ้าของคดีรับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image