‘บิ๊กโจ๊ก’ เตรียมบินภูเก็ตติดตามกู้ซากเรือฟีนิกซ์ พรุ่งนี้ปิดแฟ้มคดีทันที

จากกรณีเรือบรรทุกนักท่องเที่ยว “ฟีนิกซ์” ประสบอุบัติเหตุจมกลางทะเลใน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนที่ทางการไทยจะประสานนำเรือเครนน้ำหนัก 1 พันตัน จากประเทศสิงคโปร์เข้ามาเก็บกู้ซากเรือ ตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามกู้ซากเรือฟีนิกซ์ในวันนี้ว่า เรือเครนลำดังกล่าวเพิ่งจะเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) หลังจากที่รัฐบาลได้ประสานให้นำเข้ามาตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา และจะใช้เวลาในการเก็บกู้อีก 5 วัน ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 8-9 พ.ย.นี้ ตนในฐานะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะลงพื้นที่ติดตามด้วยตัวเองพร้อมกับ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมเข้าตรวจสอบ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า เมื่อนำเรือขึ้นพ้นน้ำแล้วก็จะสามารถปิดสำนวนคดีได้ทันที เพราะการสอบสวนสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ปล่อยปละละเลย

“ซากของเรือจะทำให้เราได้เห็นว่าการประกอบมีความสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งตามแบบแปลนเรือลำดังกล่าว จะต้องมี 4 ประตู หากพบว่ามีเพียง 1-2 ประตู ก็จะถือว่าไม่ถูกต้อง ส่วนประตูระบายน้ำก็จะต้องอยู่บนเรือ หากอยู่ที่ท้ายเรือก็ถือว่าผิด และกระจกบนเรือเป็นกระจกนิรภัยหรือไม่ รวมถึงต้องตรวจสอบว่าเครื่องยนต์เรือเป็นชนิดใด” รรท.ผบช.สตม.กล่าว และว่า สำหรับการแจ้งข้อหาผู้กระทำผิดในขณะนี้ มีทั้งคนขับและเจ้าหน้าที่ประจำเรือ รวมถึงชาวจีนที่สั่งนำเรือเข้ามาในข้อหาประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเจ้าท่า จ.ภูเก็ต ฐานปล่อยปละละเลย ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 และจะมีการขยายผลเอาผิดเพิ่มเติมไปยังผู้ที่ปล่อยให้ตั้งโรงงานต่อเรือลำดังกล่าวบนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อีกทั้งโรงงานดังกล่าวไม่ใช่อู่ต่อเรือด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image