เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ตามที่ดีเอสไอ ได้ดำเนินคดีพิเศษ คดีอาญา กับนางเกศินี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน และ นายพานทองแท้ ชินวัตร ในความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน พ.ศ.2542 อันเป็นคดีสืบเนื่องจากคดีการทุจริตในการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ที่ให้กับบริษัทในเครือกฤษามหานคร ซึ่งดีเอสไอ ได้มีความเห็นทางคดีและส่งสํานวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ถูกล่าวหาไปยังพนักงานอัยการ สํานักงาน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเพื่อดำเนินคดี
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.พนักงานอัยการได้นัด นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหา ไปฟังคําสั่งของพนักงาน อัยการ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ไม่มาตามกำหนดนัดของอัยการไม่มีเหตุผลอันควร อัยการจึงใ้ห้ดีเอสไอดําเนินการจัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งให้พนักงานอัยการโดยเร่งด่วน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ซึ่งดีเอสไอก็ตรวจสอบและติดตามตัวแต่ไม่พบ ผู้ต้องหา 2 ราย และพบข้อเท็จจริงว่าบุคคลทั้ง2 ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 แล้ว เนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 มีพฤติการณ์หลบหนีไปในระหว่างถูกดําเนินคดี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงยื่นคําร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเพื่อขอออกหมายจับบุคคลทั้งสองนําส่งพนักงานอัยการ โดยเมื่อวันที่12 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ออกหมายจับที่ จ.115 /2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. 2561 ให้จับตัวนางกาญจนาภา หงษ์เหิน และหมายจับที่ จ.116 /2561 ลงวันที่ 12 พ.ย. 2561 ให้จับตัวนายวันชัย หงษ์เหิน แล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่าบุคคลทั้งสอง เดินทางไปจากประเทศไทยปลายทางที่ฮ่องกง อยู่ระหว่างการตรวจสอบประสานงานระหว่างประเทศเพื่อติตตามตัวมาดำเนินคดี ตามพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551
