ร้องผู้การกองปราบ “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยนักธุรกิจไต้หวันพันล้านล่องหน หวั่นถูกอุ้ม หลังตม.ปล่อยตัว ไม่โทรหาลูกชายหลายวันแล้ว ทั้งๆที่คุยกันทุกวัน หวั่นถูกกระทำถึงชีวิต เพราะกำความลับเพื่อนนักธุรกิจ หากเปิดเผยจีนรู้ เพื่อนถูกแขวนคอแน่
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายสุวัชร์ สันตโยดม ผู้มีความใกล้ชิดกับนาย เจียง นักธุรกิจไต้หวัน ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ติดตามตัว และร้องเรียนการหายตั้วปของนายเจียง ถึงพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) โดยยื่นหนังสือวันเดียวกันนี้ว่า เนื่องด้วยตนเป็นนักธรุกิจหรือประกอบการกิจการเกี่ยวกับการบินพาณิชย์และธุรกิจอื่นร่วมกับชาวไต้หวันชื่อนายเจียง และนายหวัง โดยเฉพาะนายเจียงนั้น ปัจจุบันตนยังมีการประกอบธุรกิจร่วมกับนายเจียงอยู่ที่สายการบินนกแอร์และอื่นอีกหลายประการ ต่อมานายเจียงและนายหวังมีข้อพิพาทระหว่างกัน โดยนายหวังได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายเจียงต่อสถานีตำรวจทุ่งสองห้องในข้อกรรโชกทรัพย์ มูลเหตุอันเนื่องมาจากการที่นายเจียงไปทวงหนี้นายหวัง ที่นายหวังติดหนี้นายเจียงอยู่ และนายเจียงได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว แต่ปรากฎว่า เมื่อนายเจียงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว นายเจียงได้ถูกตำรวจสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง(สตม.)เข้าจับกุมและควบคุมตัวต่อ และได้นำนายเจียงไปควบคุมไว้ที่สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง 20 กว่าวัน โดยตนไม่ทราบข้อกล่าวหาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวและกักตัวนายเจียงไว้ แต่นายเจียงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากตม. เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แล้วหลังจากนั้นนายเจียงได้เดินทางไปพบปะบุคคลที่นายเจียงรู้จัก ซึ่งมีไม่กี่คนในประเทศไทยรวมทั้งตนด้วย
นายสุวัชร์ระบุต่อว่าต่อจากนั้นนายเจียงได้ขอตัวไปพบแพทย์เพราะนายเจียงมีความเครียด เจ็บป่วย และอาเจียน อันเนื่องมาจากที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ตม. และต้องถูกเจ้าหน้าที่ตม.เรียกตัวให้กลับไปแทบทันที่ถูกปล่อยตัว แต่ตนไม่ทราบว่านายเจียงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใด โดยนับแต่นายเจียงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมานั้น ตนสามารถติดต่อนายเจียงได้ตลอด แต่หลังจากนายเจียงไปขอตัวพบแพทย์แล้ว ตนก็ติดต่อนายเจียงไม่ได้อีกเลย ได้รับทราบว่าภายในเวลาไม่เกิน 24 ชม.นับจากนายเจียงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากตม.นั้น นายเจียงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตม.ติดต่อให้กลับไปเพื่อรับการควบคุมตัวที่ตม.อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากนายเจียงได้ถูกถอนสัญญาประกันการปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้นายเจียงไม่เข้าใจถึงการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตม.เป็นอย่างมาก จึงเกิดความกลัวและเครียดจาการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตม.เข้าเมืองดังกล่าว เพราะถูกกักขังตัว 20 กว่าวัน เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาแต่ในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชม.กลับมีคำสั่งเรียกตัวกลับไปควบุคมตัวอีกครั้งหนึ่ง ทำให้นายเจียงเกิดความหวาดกลัวและความหวาดระแวงเป็นอย่างมากว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะในขณะที่นายเจียงถูกควบคุมตัวอยู่ที่ตม.นั้นมีเหตุการณ์เกี่ยวกับด้านความปลอดภัยของร่างกายและชีวิตของนายเจียงมากมายหลายอย่างได้เกิดขึ้นนายเจียงซึ่งนายเจียงเล่ามา
“ที่สำคัญที่สุด คาดว่าเป็นประเด็นการหายตัวของนายเจียง คือยังเคยทราบจากนายเจียงว่า นายเจียงยังได้เก็บความลับเกี่ยวกับความเสียหายและความไม่ถูกต้องทางธุรกิจของเพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกับนายเจียงไว้อีกหลายประการ ทำให้เชื่อว่า นายเจียงจะเกิดความกลัวเป็นอย่างมาก ทั้งจากการต้องถูกควบคุมตัวในตม.อีกครั้งโดยไม่ทราบว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง และจากเพื่อนที่นายเจียงได้เก็บความลับทางธุรกิจไว้ ทำให้นับแต่นายเจียงเดินทางไปพบแพทย์แล้ว ไม่สามารถติดต่อนายเจียงได้อีกเลย จนกระทั่งถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น กลุ่มเพื่อนทำธุรกิจร่วมกบนายเจียงที่รู้จักก็ไม่มีใครสามารถติดต่อนายเจียงได้เช่นกัน อีกทั้งบุตรชายของนายเจียงซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ปกติสามารถติดต่อทางโทรศัพท์กับนายเจียงได้ตลอดเวลา และนายเจียงจะต้องโทรศัพท์กลับไปที่ประเทศไต้หวันเพื่อพูดคุยกับลูกชายททุกวัน วันละหลายครั้ง แม้แต่ขณะที่นายเจียงถูกควบคุมตัวที่ตม. นายเจียงยังโทรศัพท์หาลูกชายตลอด แต่ปัจจุบันลูกชายนายเจียงยังไม่สามารถติดต่อนายเจียงได้ และนายเจียงก็ไม่สามารถติดต่อไปหาลูกชายที่ประเทศไต้หวันด้วยเช่นกัน ผมและบุตรชายของนายเจียงต้องการพบนายเจียงเป็นอย่างมาก เพราะมีธุรกิจต้องทำร่วมกับนายเจียงอยู่อีกหลายประการ อีกทั้งยังต้องการแนะนำนายเจียงและนำนายเจียงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมาย เพราะข้อหาที่นายเจียงถูกกล่าวหานั้น เป็นข้อหาไม่รุนแรง เป็นข้อหาอันเกิดจากการทวงหนี้ระหว่างเพื่อนที่ผิดวิธีโดยรู้เท่าไม่ถูกการณ์เท่านั้น และจากการที่ผมได้ทำธุรกิจร่วมกับนายเจียงมาเป็นเวลาหลายปี ปัจจุบันยังคงมีธุรกิจที่ได้เซ็นสัญญร่วมกันไว้แล้วมูลค่านับพันล้านบาท ที่ต้องดำเนินการร่วมกันต่อไป”นายสุวัชร์กล่าว
นายสุวัชร์กล่าวว่า ในส่วนของตนหลังจากที่ติดต่อนายเจียงไม่ได้ ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบได้ติดตามตนตลอดเวลาไม่ว่าจะได้เดินทางไปติดต่อหรือทำธุรกิจที่ไหนก็ตาม เพื่อสอบถามและติดตามตัวนายเจียงจากตน และยังมีชายแปลกหน้าได้ติดตามตัวตนมายังบ้านพักอาศัยเกือบทุกวันด้วย ทำให้เกิดความหวาดกลัวและเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยทำให้หวาดระแวง และสูญเสียความเป็นส่วนตัวและสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก ทั้งที่ๆตนได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า ไม่ทราบว่านายเจียงอยู่ที่ใด และตนไม่สามารถติดต่อนายเจียงได้เช่นกัน ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วตนก็มีความต้องการจะพบนายเจียงเช่นกัน ด้วยเหตุดังกล่าวที่ตนในฐานะมีส่วนได้เสียซึ่งธุรกิจเกี่ยวการบินพาณิชย์ที่ต้องการธุรกิจร่วมกันและประสานงานกับนายเจียงอีกมากมายหลายประการ มีความต้องการที่จะพบนายเจียงเพื่อทำธุรกิจร่วมกันต่อไป และแนะนำให้นายเจียงต่อสู้คดีความ การที่ไม่มีใครติดต่อนายเจียงได้ แม้แต่บุตรชาย เป็นมูลเหตุน่าเชื่อว่านายเจียงอาจถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรืออาจถูกกระทำถึงแก่ชีวิต ด้วยเพราะนายเจียงป็นนักธุรกิจรวมพันล้านบาท ที่สำคัญนายเจียงได้กำความลับบางอย่างของเพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน หากความลับนี้เปิดเผยต่อประเทศจีน เพื่อนนักธุรกิจของนายเจียงอาจถูกลงโทษถึงแขวนคอได้ จึงขอความกรุณาได้โปรดติดตามนายเจียง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายเจียง และนำตัวมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.กองกำบการ3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สตม. กล่าวว่า นายเจียงหรือไซม่อนเจียง ได้ถูกดำเนินคดี แล้วประกันตัวออกไป การถูกจับกุมตัวดังกล่าวทำให้สิทธิการอยู่ในราชอาณาจักรถูกเพิกถอนตัวไปจึงต้องควบคุมตัวไว้ที่ตม.อีกครั้ง ต่อมานายไซม่อนได้ขอประกันตัวออกไป หลังจากนั้นต้องมารายงานตัวทุก 30 วัน สำหรับรายละเอียดนายไซม่อนเจียงหายตัวไปนั้นไม่ทราบ
จับเฒ่าไต้หวันข่มขู่รีดทรัพย์ พันแก๊งค้ามนุษย์