จากกรณีเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. จับกุม ร.ต.ท.บุญเสริม เฟื่องสิน รองสารวัตรจราจร สน.ท่าข้าม นายทรงศักดิ์ เฟื่องสิน ลูกชาย และ น.ส.จินดารัตน์ ภรรยา ผู้ต้องหาร่วมกันรับจ้างตรวจสอบข้อมูลและประวัติบุคคลทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร์ พ.ศ.2534 การนำข้อมูลของทางราชการไปเผยแพร่ฯ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผอ.ศปอส.ตร.เผยเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่กระทำความผิดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว แต่ในส่วนของการตรวจสอบลูกค้าที่มาใช้บริการของผู้ต้องหายังต้องมีการดำเนินการต่อไป โดยขณะนี้กลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งหมดก็ได้ถูกดำเนินคดีในส่วนของข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของ ร.ต.ท.บุญเสริม นั้นต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาสอบสวนโทษทางวินัย แต่ในส่วนของโทษที่จะได้รับนั้น ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าจะลงโทษอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประเด็นที่ตำรวจ ยศ ร.ต.ท.รายนี้สามารถเข้ารหัสและนำข้อมูลราชการไปขายได้นั้น ได้มีการคุยกับผู้บังคับบัญชาของตำรวจคนดังกล่าวแล้วว่า ร.ต.ท.บุญเสริม ได้เข้าไปในห้องของพนักงานสอบสวน และเห็นรหัสที่ถูกจดไว้ซึ่งอาจมีคนลืมทิ้งวางไว้ในห้อง ซึ่งเป็นรหัสของผู้บังคับบัญชาจึงแอบนำไปใช้ เข้าสู่ระบบและกระทำความผิด ซึ่งการเอาไปใช้ทำอย่างอื่นหรือใช้ในการทำงานตามหน้าที่ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่การมาทำอย่างนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจึงต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด
