เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 10 ธันวาคม ที่สน.บางนา น.ส บี (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ทำงานบริษัทใน จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ. ภูมิวัฒนา ฤทธิ์ทอง ร้อยเวรสอบสวน สน.บางนา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงกับนายบรรพต เนียมกุล อายุ 40 ปี หลังถูกหลอกให้โอนเงิน 65 ครั้ง รวมเงินจำนวน 650,000 บาท พร้อมนำหลักฐานรูปถ่าย สลิปโอนเงินและข้อความแชตในแอพพลิเคชั่น Kooup เข้าประกอบการแจ้งความ
น.ส บี กล่าวว่า รู้จักกับนายบรรพตผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ ชื่อ Kooup ตั้งแต่เมื่อวันที่18 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยชายดังกล่าว อ้างตนว่าชื่อโชค เป็นคนไม่มีครอบครัว และทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้าง แห่งหนึ่งตั้งอยู่ใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งก็ได้วิดิโอคอลพูดคุยกันเรื่อยมาจนกระทั่งวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา นายบรรพต ระบุว่าตนเองอยู่ที่ถนนเพชรบุรีและกำลังจะเข้าไซต์งานก่อสร้าง แต่ว่าลืมเอากระเป๋าเงินมา จึงขอยืมตน จำนวน 1,000 บาท และอ้างว่าหิวข้าวมาก ทั้งนี้ตนเห็นว่า นายบรรพต พูดจาดีและคอยให้กำลังใจเรื่องการทำงาน จึงเห็นใจและโอนเงินไปให้
น.ส.บี กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 25 สิงหาคม นายบรรพต ระบุว่าจะไป จ.ลพบุรี เพื่อตรวจไซต์งานก่อสร้าง และอ้างว่าลืมนำกระเป๋าเงินมาอีก พร้อมได้ถ่ายรูปสถานที่มายืนยันด้วย ตนจึงโอนเงินไปให้อีก 2,000 บาท จากนั้นก็มีการอ้างขอยืมเงินอีกหลายครั้ง ทั้งอ้างว่าพ่อป่วยไม่มีเงินรักษา รวมถึงอ้างว่าโดนลูกค้าฟ้องเนื่องจากส่งงานไม่ทันแล้วต้องไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายถึงจะยอมความ ซึ่งตนเคยโอนเงินจำนวนสูงสุดโอนถึง 32,000 บาท
“เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา พบเฟซบุ๊กนายบรรพตและเห็นว่าเขามีครอบครัวแล้ว ลงรูปตัวเขากับลูกชาย จึงพยายามทวงถามเงินที่ยืมไปหลายครั้ง แต่พอพูดเรื่องเงินเขาก็จะตัดบท จนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ตนเองได้นัดนายบรรพตมาเจอ แต่ก็ไม่สามารถติดต่ออีก จึงคิดว่าต้องถูกหลอกแน่ๆ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ติดตามชายดังกล่าวมา ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และอยากจะได้เงินคืนมาเพราะต้องไปรูดจากบัตรเครดิตให้ และตอนนี้กำลังเดือดร้อนมากๆ” น.ส.บี กล่าว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้และเตรียมที่จะทำการออกหมายเรียกตัวนายบรรพต เนียมกุล มาทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้หากพบว่าเข้าข่ายความผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
