เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม ร.ต.ท.ชนะชาติ เจริญผล รอง สว. (สอบสวน) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 426/2-3 ใกล้ซอยสองพระ ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก. สน.บางรัก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.บางรัก ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น 1 คูหา ติดริมถนนสี่พระยา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับแลกเปลี่ยนและทำอัญมณี ไม่มีชื่อ พบประตูกระจกซึ่งเป็นประตูไฟฟ้าใช้รีโมตเปิดปิด สีดำ โดยประตูฝั่งซ้าย 1 บาน แตกละเอียดเศษกระจกกระจายเกลื่อนพื้น ภายในมีการนำภาพอัญมณีหลากหลายแบบติดไว้ที่ผนัง มีชุดโต๊ะเก้าอี้ทำงาน 1 ชุด และโซฟา 1 ชุด ไม่มีตู้โชว์และอัญมณีจริงโชว์ภายในร้านแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำเชือกมากั้นห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ดวงโชติกล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนายเอ (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) อายุประมาณ 45-50 ปี สูงประมาณ 170 ซม. รูปร่างผอม ผิวสองสี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ได้ติดต่อขอเช่าซื้ออาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว เดือนละ 10,000 บาท เพื่อต้องการเปิดร้านแลกเปลี่ยนและรับทำอัญมณี โดยขอเคลื่อนย้ายเครื่องตกแต่งเข้าร้านให้เรียบร้อยก่อนโดยจะตกลงเซ็นสัญญาเช่ากับทางเจ้าของในภายหลัง เนื่องจากนายเอต้องการเปิดร้านโดยเร็วที่สุด
กระทั่งวันนี้ นายเจน หรือวีกี้ ไวบัส (Mr.Jain Vaivphav) อายุ 44 ปี ผู้เสียหายชาวอินเดีย อาชีพนายหน้าค้าเพชร และเพื่อน 1 คน นำเม็ดเพชรประมาณ 10 กะรัต มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เดินทางเข้ามาติดต่อขายให้กับนายเอ ที่ร้านดังกล่าว จากนั้นนายเอ ออกอุบายขอดูเพชร โดยการต้องส่องกับแสงธรรมชาติ จึงเดินออกมาหน้าร้าน และให้ผู้เสียหายรอในร้าน เมื่อสบโอกาสจึงกดรีโมตปิดประตูขังผู้เสียหายไว้ภายใน และวิ่งไปซ้อนท้ายรถ จยย.ไม่ทราบรุ่นสีทะเบียน ที่มีผู้ร่วมก่อเหตุติดเครื่องไว้แล้วขับหลบหนีไป เมื่อนายเจน เห็นนายเอ นำเพชรวิ่งหนีไป นายเจน จึงใช้มือทุบกระจกประตูจนแตกและพยายามวิ่งตามแต่ไม่ทัน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะไปปฐมพยาบาลที่ รพ.มเหสักข์ เย็บจำนวน 20 เข็ม ล่าสุดอาการปลอดภัย
เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำเจ้าของอาคารที่ให้เช่าและผู้เสียหาย พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนติดตามเส้นทางการหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้าที่นายวีกี้จะนำเพชรมาให้คนร้าย นายวีกี้ได้โพสต์ขายเพชรในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้คนร้ายเห็น และตัดสินใจเปิดร้านรับทำอัญมณีบังหน้า เพื่อหาโอกาสในการลักเพชรดังกล่าว
