เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี ตามที่เพจ “เจ้าพ่อคลิปเด็ด” ได้โพสเฟสบุ๊คเกี่ยวกับคลิปวิดีโอ มีชายรายหนึ่งได้ใช้ของแข็งทุบกระจกรถยนต์เก๋งคันหนึ่งบนถนนจนได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเซียล ว่า
ได้รับรายงาน จาก สน.สายไหม ว่า ได้ทำการตรวจสอบคลิปวีดีโอแล้วพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน ก่อนถึงแยกพลาธิการประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม เวลาประมาณ 07.14 น.
จากการสืบสวนสอบทราบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งได้ขับรถมาตามถนนเกิดเหตุ แล้วได้ถูกชายรายหนึ่งขับรถจักรยานยนต์มาจอดขวางด้านหน้า แล้วลงมาใช้ของแข็งลักษณะเหมือนท่อนเหล็ก ทุบที่บริเวณกระจกรถยนต์ฝั่งด้านขวาจนแตก พร้อมกับมีการต่อว่ากันของคู่กรณีในทำนองที่ว่า ถูกรถยนต์คันดังกล่าวปาดหน้าแล้วหลบหนีไป
โดยความเสียหายของรถยนต์คู่กรณีในเบื้องต้นพบว่ามีกระจกรถยนต์แตก 1 บาน ส่วนผู้เสียหาย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ยังคงต้องรอให้ผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อีกทั้งจากสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุตามที่ปรากฎในคลิปซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คันคู่กรณีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้ยังคงต้องรอให้ผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายต่อไป ในทางการสืบสวนสอบสวนนั้นเบื้องต้นได้พิสูจน์ทราบถึงคู่กรณีที่เกี่ยวข้องแล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวนจะทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยการกระทำดังกล่าวนั้นอาจเข้าข่ายในฐานความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ฐานทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 371 ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร มีโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
และขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนว่า เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเพื่อนร่วมทางจะตัดสินใจในการขับรถอย่างไร บางครั้งอาจจะขับรถไม่เป็นที่พอใจ เมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้ขอให้หลีกเลี่ยง ตั้งสติให้ดี และอย่าใช้อารมณ์ เมื่อเห็นว่าคู่กรณีกระทำความผิดจริงควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าตัดสินใจโดยพลการ เพราะอาจเกิดความสูญเสียขึ้นได้ อย่าลืมว่าเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี ผิดถูกไปว่ากันที่โรงพัก เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง ทุกกรณีเกิดจากการใช้อารมณ์ ตนเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากควบคุมอารมณ์ไม่ได้จริง สามารถนำหลักฐานด้วยการถ่ายภาพทะเบียนรถหรือหลักฐานอื่นๆ มาแจ้งที่โรงพัก หรือแจ้ง 191 หรือ 1599
