เมื่อเวลา 12.20น. วันที่ 5 มกราคม ที่ห้องรับรองสวนพลู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ,พ.ต.อ.ภูธร ปริศนานันทกุล รอง ผบก.ตม.2 ,พ.ต.อ.จักรทิพย์ ศตพิมลศักดิ์ รอง ผบก.ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ร่วมต้อนรับคณะผู้บริหารแอพพลิเคชั่น WeChat ภายใต้กลุ่มบริษัท เทนเซ็นต์ (Tencent) บริษัทไอทีชั้นนำของประเทศจีน และหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนผ่านแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยว
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในการต้อนรับและร่วมหารือกับคณะผู้บริหารแอพลิเคชั่นจากประเทศจีน ได้แก่ Wechat,QQ เว็บไซต์ paipai,Tenpay,QZone soso,weibo และเกมออนไลน์ QQ Fantasy Asura online ตามโครงการ “Traveling in Thailand with a mobile phone” หรือ ท่องเที่ยวในประเทศไทยไปกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ให้นักท่องเที่ยวจีนใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวในการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยจะเชื่อมต่อการให้บริการต่างๆ อย่างครบถ้วน ผ่านแอพพลิเคชั่น TieThai (ไทไทย) ในเครือข่ายของ wechat ที่นักท่องเที่ยวจีนคุ้นเคยและใช้เป็นประจำ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อ แอพพลิเคชั่นไทไทย สามารถเพิ่มช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ E-VOA สำหรับขอ Visa On Arrival หรือ วีซ่าขาเข้า ได้รวดเร็วขึ้น ทั้งยังชำระเงินค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าผ่านทาง “วีแชมเปย์” รวมทั้งมีการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศไทย แนะนำการซื้อสินค้าและบริการ และเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Tactics connect (แทกติก คอนเน็ก) ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น
“ที่ผ่านมา พบว่าชาวจีนประสบปัญหาการกรอกแบบฟอร์ม ตม.6 เป็นภาษาอังกฤษกับไทย เราจะใช้เทคโนโลยีโดยไม่ใช้เอกสาร เพื่อช่วยความรวดเร็ว หากทางการไทยยอมรับข้อเสนอจากที่ประชุมภายในสัปดาห์หน้า ก็จะนำเข้ามาใช้จริงอีก 3-4 เดือน ในทั้งสองส่วนคือ อำนวยความสะดวกคนเข้าประเทศให้เร็ว และ สกัดกั้นคนร้าย หรือ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ด้วยการสแกนม่านตา และพิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสิบ เช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ได้ใช้” ผบช.สตม. กล่าว
