จากกรณีที่สื่อโซเชียลได้เผยแพร่คลิปวีดิโอความยาว 12 วินาที เป็นชายสวมชุดวินจักรยานยนต์รับจ้าง ยืนทรงตัวอยู่บนเบาะนั่ง โดยไม่มีการใช้มือบังคับรถ แล้วปล่อยให้ไหลไปตามทางด้วยความเร็ว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณซอยอ่อนนุช 57 ถนนอ่อนนุช แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ ขาออกจากเส้นถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าไปเส้นลาดกระบัง
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่สน.ประเวศ พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ กล่าวว่า หลังจากที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่อ่อนนุช จนทราบตัวว่าคือ นายกัณภัค เกตุชม อายุ 24 ปี วินหมายเลข 19 สายสัมพันธ์ ซอยศรีนครินทร์ 42 เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ ทะเบียน 1 กง 5174 กรุงเทพมหานคร คันที่ปรากฎตามคลิป ซึ่งเจ้าตัวได้เดินทางมาเข้ามอบตัวเองเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา โดยรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วบ้างเพราะเคยเห็นเมื่อครั้งยังเด็ก แต่มักจะทำในช่วงเวลากลางคืนที่มีรถน้อย โดยใช้ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาฐานกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกไปทั้งหมด 5 ข้อหา พร้อมขอฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นหรือนักซิ่งว่า การขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น พนักงานสอบสวนจะต้องยึดรถเนื่องจากเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด และศาลมีอำนาจในการริบรถด้วย
ขณะที่ นายกัณภัค วินผู้ขับขี่ ได้ยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอโทษประชาชนว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง อยากรู้อยากทำอยากลอง โดยไม่ฉุกคิดว่าจะเป็นอันตรายกับคนใช้ถนนและคนร่วมทาง และอยากจะขอโทษเพื่อร่วมอาชีพวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างที่ทำให้เสียชื่อ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่อยากให้น้องๆ ที่เห็นคลิปทำตามเพราะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ด้านนางพิศมัย (สงวนนามสกุล) มารดา กล่าวว่า ปกติลูกไม่ได้เป็นเด็กก้าวร้าว เห็นก็ยังตกใจเลยว่าทำไมลูกทำแบบนี้ อยากให้ลูกคิดได้จริงๆ หากเขาคิดว่าเขาผิด นี่เขาเห็นคลิปก็รีบมามอบตัวเอง ตั้งใจจะมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่เห็นว่าดึกแล้วจึงมาวันนี้ เขามายอมรับสารภาพว่าเขาผิดจริง ที่เขาทำไม่ดี เราจะไปบอกให้คนอื่นให้อภัยเราก็ไม่ได้ แต่เราผิดจริงเราก็ต้องยอมรับผิด ความเห็นของเราว่าลูกเราผิด 100 เปอร์เซ็น ลูกเราผิดเราก็ต้องว่าผิด เราไม่คิดว่าทุกคนต้องให้อภัยลูกเรา แต่ต่อไปก็ต้องสอนลูกว่าอย่าทำอีก ไม่ขอให้ใครให้อภัย เราสำนึกผิดด้วยใจของเราจริงๆ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งความผิดทั้งหมด 5 ข้อหา ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ได้แก่ ขับรถโดยประมาทหรือหวาดเสียว มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท, ข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ,ข้อหาขับรถโดยไม่สวมหมวกนิรภัยมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท, ข้อหาใช้รถที่ไม่จัดทำประกันภัยภาคบังคับ ตามพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ.2535 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และข้อหาใช้รถที่ไม่เสียภาษีประจำปี มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ จะเตรียมนำตัวส่งศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
