พ่อเด็กช่างกลบางกะปิถูกตำรวจยิงดับปัดพบ.38 ข้างศพลูก ตั้งแง่จนท.ทำเกินกว่าเหตุ

พ่อเด็กช่างกลบางกะปิถูกตำรวจยิงดับปัดกระแสข่าวพบลูกโม่.38 ข้างศพ ไม่รู้ว่าปืนลูกเป็นของใคร ยันพร้อมรับผิดแต่ต้องเอาหลักฐานมางัด เบื้องต้นสงสัยจนท.ทำเกิดกว่าเหตุหรือไม่

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่บริเวณซอยร่มเกล้า6 แขวงและเขตมีนบุรี จำนวน 5 ราย และต่อมาได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ กับนักเรียนช่างเทคโนโลยีบางกะปิ ทำให้เจ้าหน้าที่ ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9มม.ยิงรัวใส่นักเรียนช่าง จนมีผู้เสียชีวิต 1 รายและได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา01.30น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่สน.มีนบุรี พ.อ.อ.นภัสกร บุญรัตน์ และนางเจียมใจ บุญรัตน์ บิดามารดาของนายเอกชัย บุญรัตน์ อายุ 22 ปี นักเรียนคณะช่างยนต์ชั้นปีที่ 4 สถาบันเทคโนโลยีบางกะปิ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาติดต่อขอรับเอกสารไปใช้ยื่นรับศพบุตรชายที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดบัวขาว ซอยข้างด่านทับช้าง ทางพิเศษกาญจนาภิเษก แขวงสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

พ.อ.อ.นภัสกร กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าลูกชายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนอาวุธปืนที่ตกอยู่ข้างตัวนั้น ยืนยันไม่ได้เป็นของตนเอง และไม่ทราบว่าเป็นลูกชาย หรือ ลูกชายนำมาจากไหน หรือ เป็นของบุคคลอื่น แต่ทราบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียน และเตรียมร้องขอให้มีการชันสูตรพลิกศพถึงสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากลักษณะร่องรอยกระสุนที่ร่างลูกชายถูกยิงจากด้านหลัง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นทางครอบครัวก็พร้อมจะยอมรับแต่ขอให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม ให้เอาความจริงมาพูดกัน ฝ่ายลูกชายตนผิดก็ยอมรับ หากอีกฝ่ายผิดก็ต้องยอมรับเช่นกันส่วนตัวตั้งข้อสงสัยว่าการที่ตำรวจยิงจนมีผู้เสียชีวิตเป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุหรือไม่

Advertisement

พ.อ.อ.นภัสกร กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนเองได้ไปดูที่เกิดเหตุมีเพื่อน และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ส่งภาพจุดกล้องวงจรปิดในบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุซึ่งคาดว่าจะสามารถจับภาพขณะที่เกิดเหตุไว้ได้ ตนก็เตรียมดำเนินการยื่นขอภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาความจริงว่าขณะเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น จนถึงขณะนี้ยังทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคดีแต่ทางตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม

ส่วนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับความเสียหายจากเหตุชุลมุนนั้น เกิดความเสียหายบริเวณกระจกแคปหลังซ้ายแตก และมีลูกกระสุนปืนติดอยู่คารถนั้น ล่าสุดทางตำรวจได้ส่งไปให้กองพิสูจน์ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาที่สน.มีนบุรี พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 เล่าลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ภายหลังที่ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาจากพื้นที่ สน.โชคชัย เพื่อทำการขยายผลที่ สน.มีนบุรี ว่าชายชุดแดงที่ปรากฎตามข่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้นั่งมากับขบวนรถจำนวน 3 คัน โดยคันแรกเป็นรถเอสยูวี ของหัวหน้าชุด คันที่สองเป็นทีมงาน และคันสุดท้ายเป็นรถกระบะ ที่มีผู้ต้องหาถูกใส่กุญแจมือและไม่มีเจ้าหน้าที่ควบคุม พร้อมมีรถจักรยานยนต์ของตำรวจ ขี่นำและปิดท้ายรถคันดังกล่าว

Advertisement

โดย นายเอกชัย นักเรียนเทคโนโลยีบางกะปิ ผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์สีขาว ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามประกบรถตำรวจคันสุดท้ายขึ้นมากับเพื่อน ก่อนจะตะโกนถามผู้ต้องหาข้างในรถว่า “ใครด่าแม่กู” แล้วตัดหน้ารถจักรยานยนต์ ก่อนชักปืนขนาด .38 ยิงใส่ตัวรถทันที ทำให้ตำรวจต้องขับรถพุ่งชนใส่เพื่อหยุดยั้งเหตุ และป้องกันการหลบหนี เมื่อรถของผู้ตายล้มลงแล้ว ยังพยายามที่จะยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องวิสามัญ ขณะที่เพื่อนผู้ตายถูกยิงบาดเจ็บที่ขา ได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปได้

พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวต่อ เมื่อหัวหน้าชุดซึ่งอยู่กับรถคันแรกได้ทราบเหตุยิงกันขึ้น จึงวกรถกลับมาตรวจสอบ พบผู้ตายนอนเสียชีวิตจึงได้ประสานให้เข้าทำการเก็บศพ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนผู้ตายได้เข้ามาพบเห็นพอดี และคิดว่าชายชุดแดงเป็นผู้ก่อเหตุยิงเนื่องจากมีท่าทางเป็นหัวหน้า เสียงดังคอยสั่งการ จึงเข้าปะทะและเกิดเหตุชุลมุนขึ้น ยืนยันว่าชายชุดแดงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้มาตั้งแต่แรก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image