จากกรณีผู้ต้องหา 24 คน บุกทำร้ายร่างกายครู บุคลากร และนักเรียนระหว่างสอบ GAT-PAT ภายในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ก่อนตำรวจแจ้งความผิดหนัก 6 ข้อหานำตัวส่งเรือนจำพิเศษธนบุรี ต่อมาศาลฯ อนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 3 คน และเมื่อช่วงค่ำวันที่28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนบางขุนเทียนประสานนำกำลังจับกุม นายพีรพล หรือนะ เอมชาวนา อายุ 28 ปี ได้ที่จ.อ่างทอง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.นพดล คงศาสตรา สว.สส.สน.บางขุนเทียน กล่าวว่า ภายหลังการจับกุมตัว นายพีรพลเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ต่อมาในช่วงกลางดึกวันเดียวกัน นายสิทธิชัย จรสุข อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 156/2562 ลงวันที่ 28 ก.พ.62 ในข้อหา “ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ” คนที่ 2 จาก 3 รายที่มีหลักฐานกล้องวงจรปิดจากโรงเรียนว่า เป็นบุคคลที่เข้าไปภายใน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยเมื่อได้ทำการสอบสวน นายสิทธิชัยก็ให้การภาคเสธ รับว่า ตนได้เข้าไปภายในโรงเรียนจริง แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายใครทั้งสิ้น
นายสิทธิชัย ให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ได้เข้าไปร่วมงานบวชตามปกติ ยอมรับว่ามีดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่เมา ซึ่งหลังจากที่มีปัญหาเรื่องเครื่องขยายเสียง กลุ่มเพื่อนก็วิ่งเข้าไป ตนก็วิ่งเข้าไปห้ามปราม ยืนยันว่า ไม่ได้เข้าไปทำร้ายร่างกายหรือทำลายทรัพย์สินแต่อย่างใด และหลังจากเกิดเหตุก็กลับมาทำงานตามปกติ กระทั่งทราบว่าตนเองมีหมายจับจึงเดินทางเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ
ต่อมา เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าของคดี โดยกล่าวว่า คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ทางตำรวจจะเร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 1 ราย มาดำเนินคดี สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุมีทั้งสิ้น 27 คน โดยจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่าบางรายมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเสพ และจำหน่าย และจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในกล้องวงจรปิดจริง แต่ไม่ใช่เป็นคนไปทำร้ายร่างกายและทรัพย์สิน ทั้งนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การในชั้นพนักงานสอบสวน
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่กรมราชทัณฑ์ ตรวจพบสารเสพติดในร่างกายกลุ่มผู้ต้องหานั้น ต้องขอชี้แจงว่า ทางตำรวจมีการตรวจปัสสาวะในเบื้องต้น ซึ่งยาที่ใช้ตรวจเป็นยาที่ใช้สำหรับหาแอมเฟตามีน จึงไม่พบสารเสพติด ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ตรวจคาดว่าเป็นการตรวจในอีกรูปหนึ่ง จึงอาจทำให้พบสารเสพติดในร่างกาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนของยาเสพติด ทั้งนี้ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดในการทำสำนวนคดีนี้เพื่อส่งอัยการให้เร็วที่สุดและต้องมีความรอบคอบในการทำคดีด้วย
มีรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีอีกราย คือ นายพีรยุทธ เสริฐพูล อายุ 24 ปี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป