อัยการทั่วประเทศเทคะเเนนเลือก ‘อรรถพล ใหญ่สว่าง’ ผงาดนั่ง ปธ.ก.อ.

ถล่มทลาย!อัยการทั่วประเทศเทคะเเนนเลือก “อรรถพล ใหญ่สว่าง” ผงาดนั่ง ปธ.ก.อ.คนเเรกตามกฎหมายใหม่ ได้ 1,810 คะเเนน จากบัตร 3,061 ใบ ส่วน “พชร” อันดับ 2 ก็ท่วมท้น มีลุ้นชิงสมัยหน้า

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มีนาคม ที่ห้องประชุม 303 เเละห้องประชุม 302 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการตรวจนับคะแนนเลือกประธาน ก.อ.และ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยในส่วนของประธาน ก.อ.มีผู้สมัครเข้ารับเลือกจากคะเเนนเสียงของอัยการทั่วประเทศยกเว้นอัยการผู้ช่วย จำนวน 5 คนประกอบด้วย 1.นายทวีศักดิ์ วรพิวุฒิ อดีตรองอัยการสูงสุด 2.นายปรีชา วราโห อดีตรองอัยการสูงสุด 3.นายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุด 4.นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เเละ 5.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด มีการเริ่มนับคะเเนนตั้งเเต่เวลา0 9.30-13.13 น. มีบัตรลงคะเเนนจำนวน 3,061 ใบ ผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับคะเเนนสูงสุดเรียงลำดับดังนี้

อันดับ 1.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ได้คะเเนน 1,810 คะเเนน อันดับ 2 นายพชร ยุติธรรมดำรง 1,036 คะเเนน อันดับ 3 นายทวีศักดิ์ วรพิวุฒิ 91 คะเเนน อันดับ 4 นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ ได้ 63 คะเเนน อันดับ 5 นายปรีชา วราโห ได้ 61 คะเเนน

ส่วนการเลือกตั้ง ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนับคะเเนน ซึ่งจะทราบผลในวันนี้

Advertisement

โดยคณะกรรมการอัยการ (ก.อ) ตามกฎหมายใหม่จำนวน 15 คน ประกอบด้วย
ประธาน ก.อ. (ที่มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วยซึ่งกฎหมายเก่าจะเป็น อสส.โดยตำเเหน่ง) โดยมีอัยการสูงสุดเป็นรองประธาน ก.อ.

ส่วน ก.อ.ประกอบด้วย รองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโส จำนวน 5 คน กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน ซึ่งมาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย ประกอบด้วย อัยการชั้น 5 ขึ้นไปจำนวน 4 คน อัยการที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 2 คน รวมเป็น 6 คน เเละกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 คน ซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นอัยการมาก่อนและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ การพัฒนาองค์กร หรือการบริหารจัดการ (มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย) โดยให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เป็นเลขานุการ ก.อ.

สำหรับคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือกเป็นประธาน ก.อ. จะเป็นผู้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเคยรับราชการเป็นข้าราชการมาแล้วในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีอัยการหรืออธิบดีอัยการภาคหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า ทั้งนี้ ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกหรือเป็นเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองในระยะสิบปีก่อนได้รับเลือกโดยประธาน ก.อ. มีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเก้าโปรดเกล้าแต่งตั้ง ส่วน ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปีนับแต่วันที่ อสส. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็น ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยประธาน ก.อ. และ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว

Advertisement

สำหรับนายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุดคนที่ 11 ผู้ที่ได้รับคะเเนนสูงสุดจากอัยการทั่วประเทศเลือกเข้ามาเป็นว่าที่ ประธาน ก.อ.เมื่อครั้งสมัยดำรงตำเเหน่งอัยการสูงสุด เคยถูกคณะรักษาความสงบเเห่งชาติซึ่งเข้ายึดอำนาจในช่วงเเรกสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้นายตระกูล วินิจนัยภาค รองอัยการสูงสุดในขณะนั้นที่ต่อมาเป็นผู้ฟ้องคดีโครงการรับจำนำข้าวขึ้นดำรงตำเเหน่ง อสส.เเทน ซึ่งต่อมาได้กลับมานั่งในตำเเหน่งอัยการอาวุโสโดยในช่วง พ.ย.57 ได้มีการ เลือกตั้ง ซ่อม ก.อ.สัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ แทนตำเเหน่ง นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ว่างลง ปรากฏว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่อัยการ ทั่วประเทศที่มีสิทธิลงคะแนนกว่า 3,100 คนแล้วส่งกลับมามีจำนวนกว่า 2,400 ใบ ปรากฏว่า นายอรรถพล ได้คะแนนสูงถึง 1,677 คะแนน ซึ่งเกินจำนวนกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิและผู้ลงคะแนนไปจำนวนมาก เเละยังการเลือกตั้ง ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิหลังจากนั้นนายอรรถพลก็ยังได้คะเเนนมากกว่าครั้งเเรกซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ว่าไม่เคยมีผู้ใดได้รับคะเเนนคัดเลือกจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน
ทำให้มีการพูดคุยกันมากว่าการเลือกตั้งซ่อม ก.อ.ใน 2 ครั้งนั้นสะท้อนความเป็นเอกภาพในการบริหารงานของการสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป เนื่องจากนายอรรถพล พ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุดในช่วง คสช. มีอำนาจเเต่ได้กลับมาลงแข่งขันเลือกตั้งเป็น ก.อ.สัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ เเละได้รับเลือกในคะเเนนที่สูงลิ่วยังคงได้รับความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่ แม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ถือว่าได้รับคะเเนนนิยมจำนวนมากมีคะเเนนเสียงเกินกึงหนึ่งจากบัตรลงคะเเนนจากอัยการทั่วประเทศ โดยสำหรับนายพชร ยุติธรรมดำรง อดีต อสส.คนที่ 8 ที่เเม้ได้คะเเนนลำดับ 2 ในครั้งนี้ก็ถือว่าได้คะเเนนที่สูงเกินความคาดหมาย ซึ่งคะเเนนที่ได้น่าจะมาจากฐานเสียงอัยการรุ่นเก่าจึงเชื่อว่าในการเลือก ก.อ.คราวหน้าหากนาย พชร ยังอาสาตัวเองอีกก็มีโอกาสได้รับเลือกเป็นประธาน ก.อ.สูง

สำหรับนายอรรถพล จบการศึกษาปริญญาตรี สาขานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
– เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมาย แห่งเนติบัณฑิตยสภา
– นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
– นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ประวัติการทำงานที่น่าสนใจ
– 2515 -2518 ตำแหน่งอาจารย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
– 2518 ตำแหน่งอัยการผู้ช่วย (พ.ศ. 2518) สำนักงานอัยการสูงสุด
– 2548 – 2549 ตำแหน่งอธิบดีอัยการฝ่ายคณะกรรมการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด
– 2549 – 2550 ตำแหน่งผู้ตรวจราชการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด
– 2550 – 2552 ตำแหน่งหัวหน้าผู้ตรวจราชการอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด
– 2552 – 30 ก.ย. 2556 ตำแหน่งรองอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการสูงสุด
– 2556 – 2557 ตำแหน่งอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการสูงสุด
– 2555 – ปัจจุบัน ตำแหน่งเนติบัณฑิตยสภา เนติบัณฑิตยสภา
– 2555 – ปัจจุบัน ตำแหน่งสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่ง
เนติบัณฑิตยสภา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image