ตร.ถลาง รวบหนุ่มเปิดกระจกรถโชว์ปืน เผย ขอโทษที่เผลอ หลังคู่กรณีปาดหน้า

สืบเนื่องกรณีเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 22 มีนามค ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ธิว ธิว” ได้โพสต์ภาพพร้อมวิดีโอความยาวประมาณ 0.18 นาที ลงในกลุ่ม “ขับรถแบบนี้ต้องประจาน ภูเก็ต” พร้อมข้อความระบุว่า “นึกว่ามีเรื่องกับเรา ตำรวจถ้าอยู่ในกลุ่มนี้ตามสืบสวนหน่อยครับ เกรงจะโปงปาง ที่อื่น เหตุเกิดเวลาประมาณ 10 โมงเช้านี้เองครับ. สถานที่ ใกล้ไทวัสดุ ภูเก็ต”

โดยในคลิปดังกล่าวเป็นภาพจากกล้องหน้ารถของผู้โพสต์ แสดงให้เห็นภาพขณะรถเก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด สีแดง ทะเบียน กต 467x บุรีรัมย์ ขับแซงมาจากทางเลนขวาและเปิดไฟเลี้ยวก่อน เลี้ยวปาดเข้าเลนซ้ายกะทันหัน ซึ่งขณะที่ปาดนั้นคนขับได้เปิดกระจกและชักอาวุธปืนพกสั้นชูยื่นออกจากกระจกรถ ก่อนชักกลับอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ถลาง ร่วมชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ติดตามชายผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 23 มีนาคม ที่ สภ.ถลาง พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท. ณฐาภพ พงศาปาน รอง ผกก.สส.สภ.ถลาง พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชำนาญกิจ รอง ผกก.ป.สภ.ถลาง พ.ต.ท.กิตติภูมิ ถิ่นถลาง สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง และชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันสอบปากคำ นายมานพ สังข์พันธ์ อายุ 35 ปี ชาว ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ชายผู้ก่อเหตุ หลังควบคุมตัวได้ที่ห้องพักคนงานไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนลูกโม่แบบใช้แรงดันแก๊ส (BB GUN) ใช้ยิงกับเครื่องกระสุนปืนแบบลูกปรายหัวเหล็ก ความยาวลำกล้อง 2.5 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก พร้อมอุปกรณ์บรรจุเครื่องกระสุนแบบลูกปรายหัวเหล็ก จำนวน 6 อัน และเครื่องกระสุนแบบลูกปรายหัวเหล็ก จำนวน 102 นัด

Advertisement

นายมานพ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาโครงการที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ถลาง ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจากตัวเมืองภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ อ.ถลาง เมื่อมาถึงบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ได้มีรถปิ๊กอัพคันหนึ่งวิ่งตามหลังมา ซึ่งขณะนั้นตนเองขับอยู่เลนซ้ายสุด รถคันดังกล่าวพยายามกะพริบไฟไล่ตนเอง เหมือนพยายามจะแซงซ้าย ซึ่งตนเองจะหลบไปขว่าก็ไม่ได้ เพราะรถทั้งหมดจะพยายามเบี่ยงเข้าซ้ายทั้งหมดเพราะข้างหน้าเป็นจุดกลับรถ จากนั้นรถคันดังกล่าวได้บีบแตรใส่อีก 1 ครั้ง ก่อนจะแซงขึ้นไป เมื่อแซงไปได้สักพักก็เบรกกะทันหัน ตนเองก็เบรกตามอย่างรวดเร็ว จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ตัดไปเลนขวาและวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ตนเองก็ขับต่อทางเลนซ้าย ต่อมารถคันดังกล่าวได้ปาดเข้าซ้ายอีกครั้ง ตนเองเห็นดังนั้นจึงตัดไปเลนขวาเพื่อที่จะแซงขึ้นไปเพราะไม่อยากมีปัญหากับรถคันดังกล่าว แต่เมื่อตนวิ่งไปเลนขวาและพยายามเร่งเครื่องแซง รถคันดังกล่าวก็เร่งเครื่องตามจนตนเองแซงไม่ได้ และเมื่อใกล้ถึงจุดกลับรถซึ่งบังคับให้รถทางตรงต้องหลบเข้าเลนซ้าย ตนชะลอรถและหักกลับเข้าเลนซ้ายตามหลังรถคันดังกล่าว รถคันดังกล่าวได้เบรกกะทันหันอีกครั้งทำให้ปืนที่วางอยู่ข้างตัวของตนร่วงลงไปบนที่วางเท้า ตนเองเกรงว่าปืนจะเข้าไปขัดกับเบรกรถจึงก้มเก็บและถือไว้ในมือ เมื่อผ่านจุดกลับรถตนเองตัดไปจึงวิ่งเลนขวาอีกครั้ง และเร่งเครื่องขึ้นไป แต่เนื่องจากข้างหน้าเป็นถนนขรุขระและมีการซ่อมถนน นอกจากนี้ยังมีรถตู้ (คันถ่ายคลิป) ขับตามจ่อท้ายมาอย่างกระชั้นชิด ตนเองจึงต้องรีบเปลี่ยนเลนกลับไปทางซ้าย และพยายามจะโบกรถคู่ก็กรณีให้แซงขึ้นไปก่อน แต่ลืมไปว่าในมือถือปืนไว้ จึงเป็นดังภาพที่ปรากฏทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งตนเองยอมรับว่าเผลอเรอที่เอามือโผล่ออกไปโดยไม่ได้เก็บอาวุธที่ถืออยู่ก่อน และยอมรับผิดที่พกพาอาวุธไป แต่ไม่ได้เจตนาที่จะเอาอาวุธมาโชว์หรือมีเจตนาที่จะทำร้ายใคร

“อยากฝากสังคมว่าไม่ได้ตั้งใจ และขอโทษกับสิ่งที่ทำไปด้วยความเผลอเรอ และยอมรับว่าการกระทำลงไปนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย”

พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของอาวุธปืนชนิดที่ใช้ก่อเหตุนั้น ถึงแม้เป็น ปืนลูกโม่แบบใช้แรงดันแก๊ส (BB GUN) แต่ใช้ยิงกับเครื่องกระสุนปืนแบบลูกปรายหัวเหล็ก สามารถทำอันตรายผู้อืนได้ โทษจึงมีความรุนแรงเทียบเท่าอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image