เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายตะวัน จารุจินดา หรือ เติ้ล ดารานักแสดงชื่อดัง น.ส.เสาวคนธ์ จารุจินดา ภรรยา พร้อมด้วย น.ส.วรินดา ดํารงผล หรือ ดีเจดาด้า น.ส.กัญดา ศรีธรรมนูปถัมภ์ หรือ ดีเจแนน นายพิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ หรือ ดีเจอาร์ม และกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายยุทธนา ธรรมพรต หลังถูกหลอกให้โอนเงินค่าซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศ แต่กลับไม่ได้รับตั๋วเครื่องบินตามที่ตกลงกันไว้ มูลค่าความเสียเป็นเงินรวมกว่า 30 ล้านบาท
นายตะวัน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนอยากพาลูกสาวไปเที่ยวต่างประเทศเป็นทริปแรก โดยไปกันทั้งครอบครัวจารุจินดา ซึ่งน้องสาวตนก็แนะนำว่าให้ลองซื้อตั๋วกับนายยุทธนา เพราะเห็นว่ามีราคาถูกกว่าทั่วไป ทั้งยังมีคนเคยไปได้จริง ตอนแรกก็สงสัยเพราะเห็นว่าราคาค่อนข้างถูกมาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเนื่องจากมีหลายคนยืนยันว่าบินได้จริงๆ ก็เลยสั่งจองไป 4 ที่นั่ง พร้อมกับโอนเงินค่าตั๋วให้ทั้งหมดประมาณ 8 หมื่นบาท โดยมีกำหนดเดินทางวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ แต่ระยะหลังเริ่มแปลกใจ เพราะวันที่ตนส่งชื่อเป็นภาษาอังกฤษไปให้นายยุทธนา เพื่อให้ออกตั๋วของตนและภรรยา แต่นายยุทธนา กลับไม่สนใจถามชื่ออีก2 คนที่เหลือ ทำเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญ จนกระทั่งเจอกรณีของ น.ส.นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล หรือ ดีเจพี่อ้อย จึงเริ่มเอะใจว่าตนจะโดนหลอก อีกทั้งเวลาผ่านมาจนถึงกำหนดที่จะต้องบุ๊คกิ้งตั๋วแล้ว ก็ยังไม่ได้มีการทำบุ๊คกิ้งตั๋วให้แต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่าน่าจะตกเป็นเหยื่อถูกหลอกด้วยเช่นกัน จึงไปแจ้งความโดยขอลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน
น.ส.วรินดา หรือ ดีเจดาด้า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนต้องการไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว โดยได้จองตั๋วกับนายยุทธนา เพราะเห็นว่าทำงานอยู่ที่สถานีวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ และเห็นว่ามีคนแนะนำมาเยอะ จึงเชื่อใจ สั่งจองตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนมกราคม และมีกำหนดเดินทางในช่วงเดือนเมษายนกับ พฤษภาคม รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการดำเนินการใดๆ อีกทั้งเริ่มเห็นว่ามีผู้เสียหายถูกนายยุทธนาหลอกในลักษณะเดียวกันเพิ่มมากขึ้น วันนี้ตนพร้อมผู้เสียหายรายอื่นๆจึงได้นัดรวมตัวเดินทางมากองปราบโดยนำพยานหลักฐานต่างๆ มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมว่าจะสามารถดำเนินการใดกับนายยุทธนา ได้บ้าง แล้วจะมีวิธีการอย่างไรที่จะชดใช้เงินให้กับผู้เสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการนัดเจรจากับผู้เสียหายหลายคน แต่เมื่อถึงเวลานัดกลับบ่ายเบี่ยง ตนจึงอยากให้ตัวนายยุทธนา มาพูดคุยกับผู้เสียหายดีกว่าว่าจะชดใช้เราในรูปแบบไหน ซึ่งหากไม่สามารถชดใช้เงินให้กับผู้เสียหาย และดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
ด้าน น.ส.กัญดา หรือ ดีเจแนน กล่าวว่า นายยุทธนา ก็ทำงานที่เดียวกับตน แต่ว่าตอนนี้เรื่องมันไปไกลมาก สิ่งที่เขาพูดกับผู้เสียหายไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเลย ซ้ำยังคงโกหกโดยเอาชื่อตนไปแอบอ้างในการขายตั๋วให้แก่คนอื่น ซึ่งคนอื่นที่ซื้อก็เพราะเชื่อใจเรา หากไม่ดำเนินการใดๆ เขาก็ยังคงหลอกคนอื่นต่อไป ซึ่งพฤติกรรมของเขามันส่อให้เห็นว่าฉ้อโกงประชาชน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พร้อมกับทำการสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายเพื่อนำมาพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป
