จากเหตุวินจักรยานยนต์รับจ้าง 2 กลุ่ม ยกพวกตีกันเพราะวินใหม่มาตั้งตัดหน้า แย่งลูกค้าในซอยอุดมสุข 1-2 (สุขุมวิท 103) พื้นที่ สน.บางนา โดยเหตุเกิดในเวลาที่มีคนพลุกพล่านของช่วงสายวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา จนทำให้ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี พนักงานเมสเซนเจอร์เคอร์รี่ ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านตามที่นำเสนอข่าวไป
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่ สน.บางนา พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจและเร่งรัดให้ตรวจสอบพฤติกรรมการกระทำความผิดของทุกคนในทุกข้อกล่าวหา พร้อมสั่งให้ดำเนินการอย่างเรียบร้อยครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุและให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าใจว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้การที่จะขยับวินทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันระหว่างวินต้นซอยและวินท้ายซอย โดยจะทำกรณีนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง เหมือนคดีแก๊งงานบวชยกพวกไปรุมทำร้ายครูและนักเรียนระหว่างสอบที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ โดยจะเอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันอีก
พล.ต.ต.ธีรศักดิ์กล่าวอีกว่า ผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ทุกกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 กวดขัน ทำสถิติ เก็บประวัติทุกคน ในลักษณะผู้มีอิทธิพลที่จะไปคุมวินรถจักรยานยนต์ และให้บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจร ในการขับขี่ให้ถูกต้อง เวลานี้มีความคืบหน้าทางคดีไปมากแล้ว และได้รวบรวมพยานหลักฐานทุกคนที่ได้จดทะเบียนทั้งวินอุดมสุข 1 และวินอุดมสุข 2 (อุดมสุขรุ่งเรือง) ที่ปรากฎในภาพเหตุการณ์เกือบ 100 คน โดยจะเก็บหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ให้ครบถ้วน ซึ่งจะต้องมาพิสูจน์ทราบตัวบุคคลตามหมายเลขเสื้อที่ปรากฎ รวมถึงพยานแวดล้อมอื่นๆ
ส่วนกรณีที่กลุ่มวินได้เตรียมใช้รถขนอาวุธมาก่อเหตุนั้น พล.ต.ต.ธีรศักดิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานทั้งหมดชัดเจนแล้ว พบว่ามีการจัดเตรียมจัดซื้ออาวุธมาอยู่บนรถที่มีหมายเลขทะเบียนปรากฎชัดอยู่ในภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียดกับทุกคนที่ปรากฏอยู่ในภาพ
