เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป พร้อม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ร่วมแถลงจับกุมกลุ่มวัยรุ่นอันธพาลแต่งรถซิ่ง แก๊ง TA-K-DA (ทาเคดะ) จำนวน 5 ราย
โดยมีนายสุรชัย หรือโต้ง สถาผล อายุ 35 ปี นายลือชัย หรือ แป๊ะ นุชนาฎ อายุ 39 ปี นายประสิทธิชัย หรือฟิวส์ แก้วชัยยา อายุ 22 ปี นายวีรพล หรือตาม ผิวเผือก อายุ 26 ปี และนายอัครณุพล หรือนุ เปี่ยมทรัพย์ อายุ 38 ปี หลังร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกายตำรวจกองปราบฯ เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ลูกชายของ ร.ต.อ.ฉัตรชัย หงส์วิไล รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ถูกนายฟิวส์ เข้ามาแย่งสายฉีดน้ำระหว่างเล่นน้ำอยู่ที่ปากซอยลาดกระบัง 1 จึงเข้าไปตักเตือนแต่ได้เกิดปากเสียงกัน จนกระทั่งนายฟิวส์ไปยกพวกกลับมารุมทำร้ายตำรวจนายดังกล่าวด้วยท่อนไม้และเหล็ก ซึ่งนายฟิวส์ใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตี และนายโต้ง ชูปืนชี้ไปยังตำรวจและคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วพากันหลบหนีไป
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อ จากนั้นตำรวจได้สืบสวนหาเบาะแสในที่เกิดเหตุ และสอบถามพยานทราบว่า รถที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ติดสติ๊กเกอร์ที่กระจกหลัง มีข้อความว่า “TA-K-DA” กระทั่งเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจได้ปิดล้อมตรวจค้น 5 จุดในย่านลาดกระบัง ก่อนเข้าตรวจค้นบ้านพักและจับกุมนายโต้ง ซึ่งเมื่อสอบประวัติพบเมื่อปี 2547 เคยถูกจับข้อหาร่วมกันทำร้าย ,ปี 2549 ถูกจับข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ล่าสุดในปี 2554 คดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย เพิ่งพ้นโทษปี 2560
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สอบสวนทราบว่ากลุ่มดังกล่าว เป็นวัยรุ่นที่รู้จักกันในชุมชนย่านลาดกระบัง และมักรวมตัวแข่งรถในช่วงกลางดึกของวันหยุดมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว โดยขณะจับกุม ตรวจสอบหาสารเสพติดไม่พบปัสสาวะเป็นสีม่วง แต่หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นำของกลางไปซุกซ่อนบางส่วน อย่างไรก็ตาม ฝากว่า การรวมกลุ่มของวัยรุ่นและประชาชนเป็นสิทธิที่จะทำได้ แต่ต้องไม่รุกล้ำสิทธิผู้อื่น รวมถึงต้องไม่ยกพวกตีกันหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
เบื้องต้นแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาที่ 1-3 ฐาน “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นฯ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย”
และ แจ้งข้อหาต่อนายตาม ผู้ต้องหาที่ 4 ฐาน “ครอบครองเครื่องกระสุนปืน” ส่วนนายนุ ผู้ต้องหาที่ 5 แจ้งข้อหา “ครอบครองสัตว์ป่า(นกปรอดหัวโขน) และค้าสัตว์ป่า” ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป
