เมื่อวันที่12 กรกฎาคม ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พร้อม พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.ดส.,นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมแถลงการจับกุมกลุ่มผู้ค้าลูกโป่งแก๊สหัวเราะ ที่ลักลอบนำมาขายแก่นักเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ บนถนนข้าวสารซึ่งหากสูดดมอย่างเข้มข้น อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
พ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประสานไปยัง อย.ว่า ได้มีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์ หรือแก๊สหัวเราะ ตามหน้าสถานบริการให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยบรรจุในลูกโป่งแบ่งขายใบละ 50-200 บาท ซึ่งผู้เสพจะมีอาการเพลิดเพลิน และหากดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วยจะทำให้เกิดอาการมึนเมา โดยตำรวจได้ลงพื้นที่เป้าหมาย 14 จุด บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพฯ
นพ.ธเรศ กล่าวว่า แก๊สหัวเราะทางการแพทย์จะใช้เป็นแก๊สดมสลบก่อนการผ่าตัดหรือถอนฟันเพื่อลดอาการปวด ซึ่งออกฤทธิ์รวดเร็วและหมดฤทธิ์เร็วเช่นกัน โดยตามกฎหมาย ถือว่าเป็นยาที่ใช้ตามโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังใช้ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้บรรจุในถุงลมนิรภัยในรถยนต์ แต่ปัจจุบันพบว่าถูกนำมาใช้ผิดประเภทเพื่อความสนุกเพลิดเพลิน ซึ่งหากสูดดมเข้าไปมาก จะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน อาจทำให้คุมสติเดินไม่ได้ และเมื่อสูดดมบ่อยครั้งเป็นเวลานาน จะทำให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย รับความรู้สึกไม่ได้ เนื่องจากภาวะขาดวิตามินบี 12 ร้ายแรงสุดอาจเสียชีวิตได้ เพราะแก๊สดังกล่าวจะเข้าไปแย่งออกซิเจนในเลือด แทนที่ออกชิเจน ในปอดจนร่างกายไม่สามารถควบคุมระบบหายใจได้
ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า ผู้ที่ลอบนำแก๊สไนตรัสออกไซด์มาจำหน่าย จะถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.ยา ในข้อหาจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากยาดังกล่าวเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจาคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
