เมื่อเวลา 08.36น. วันที่ 2 สิงหาคม เจ้าหน้าที่สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุระเบิดใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี ทางลงประตู3 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
จุดเกิดเหตุมีการระเบิดไปแล้วจำนวน2จุด
จุดแรกเป็นใต้พุ่มไม้ ใกล้ทางลงสถานีรถไฟฟ้า ช่องนนทรี เป็นทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี กับตึกมหานคร (หรือ ตึกคิงเพาเวอร์ )พบเศษดินกระจุยกระจาย เป็นวงกว้าง
จุดที่2 บริเวณ ลานจอดรถหน้าตึกมหานคร คิงเพาเวอร์ พบว่ามีรถยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวนหนึ่ง (กระจกร้าว) เกิดจากแรงอัดของระเบิด
ขณะที่แรงอัดของระเบิดส่งผลทำให้แผงกระจกที่อยู่ระหว่างประตูทางเข้าขบวนรถไฟฟ้า ช่องนนทรี ฝั่งตึกมหานคร แตกร้าวเป็นเมล็ดข้าวโพด
โดยหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่โดยรอบ เนื่องจากตรวจพบพบวัตถุต้องสงสัยอีกจุดใกล้กับจุดระเบิดที่2 ก่อนหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด จะใช้เครื่องทำลาย ก่อนกั้นพื้นที่ไว้ห้ามใครเข้าออกเด็ดขาด
เบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวน2รายนำส่ง เป็นเจ้าหน้าที่รปภ ของ ตึกมหานคร ถูกนำรพ.จุฬาลงกรณ์ โดนแรงอัดของระเบิดเบื้องต้นอาการปลอดภัย
จากการสอบสวนนายโชคชัย ประสงค์สัน อายุ48 ปี วินจยย.รับจ้างที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดัง คล้ายระเบิด 2 ครั้งขณะที่ตนกำลังขับรถผ่านสถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปส่งผู้โดยสาร เสียงดังสนั่นจนหูอื้อ ตอนแรกนึกว่าเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด แต่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบจึงคิดว่าเป็นระเบิดแน่
เบื้องต้น บริเวณโดยรอบที่เกิดระเบิด พบลูกปรายตกเกลื่อนไปทั่วบริเวณ แต่ไม่พบชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์ในการจุดระเบิดในครั้งนี้ ส่วนลูกปรายที่พบ เป็นชนิดเดี่ยวกันกับที่พบ ที่สำนักงานตำรวจเมื่อวานนี้ โดยลูกปรายที่พบ เรียกกันในวงการระเบิด ว่า “บอลแบริ่ง”
โดยรายงานข่าวแจ้งว่าการระเบิดป่วนกรุงครั้งนี้ ทางกลุ่มคนร้ายมีกันหลายคน และวางแผนแบ่งงานกันทำโดยแยกย้ายกันไปวางระเบิดตามจุดต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯโดย เน้นวางระเบิดในจุดที่หวังผลเชิงสัญลักษณ์ โดยมีการเขียนตัวเลขไว้ที่กล่อง โดยกล่องที่พบ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขียนเลข5 โดยใช้วิธีการหน่วงเวลาไล่เลี่ยให้เกิดระเบิดในช่วงเช้าของวันนี้พร้อมกันหมด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาตามจุดต่างๆทั่วกรุงเทพ ที่คาดว่า คนร้ายจะนำไปวาง พร้อมกันนี้ ยังใหัรถวิทยุ191 ไปอยู่ประจำตามจุดต่างๆ เช่นห้างสรรพสินค้า และจุดที่มีประชาชนพลุกพล่าน