สตม.จับเฒ่ายุ่นซื้อกาม-เยเมนแค้นเมียไทยจ้างยัดยาบ้า

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติจำนวน 3 คดี โดยคดีแรกจับกุมนายพีระพงษ์ สงวนนามสกุล อายุ 57 ปี นายหน้าชาวไทยที่ติดต่อเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปค้าบริการทางเพศกับนายคาซูโอะ ชาวญี่ปุ่น อายุ 69 ปี

พ.ต.อ.เศรษฐภัทรกล่าวว่า ภายหลัง ตม.จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.4 ทราบเหตุมีชาวไทยจัดหาเด็กหญิงบำเรอกามให้กับชาวญี่ปุ่น จึงติดตามหาตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เหยื่อกามทั้งสองมาสอบปากคำพร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทราบความว่า น.ส.บี ได้รับติดต่อไปค้าบริการทางเพศกับนายคาซูโอะ รวม 5 ครั้ง นับตั้งแต่กลางปี 2561 จนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท และต้องแบ่งเงิน 5,000 บาทให้กับนายพีรพงษ์ ส่วน น.ส.เอ เพิ่งได้รับการติดต่อไปค้ากามราวเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจจึงนำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์นายคาซูโอะ และนายพีรพงษ์ พบว่าได้กระทำผิดจริง จึงขอศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น อนุมัติหมายจับที่ 82,83/2562 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2562 จับกุมสองผู้ต้องหาได้ที่ โรงแรมแกลอรี่เลควิว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และยังพบนายสยุมภูว์ สงวนสกุล นายหน้าชาวไทยอีกรายที่พา น.ส.ซี อายุ 17 ปี เหยื่อกามมาค้าบริการให้กับนายคาซูโอะ โดยสอบถามผู้ต้องหาชาวไทยทราบว่า เคยทำงานร่วมกับนายคาซูโอะ ย่านทานิยะ ของกรุงเทพฯ จึงรู้จักกันก่อนมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.4 ดำเนินคดีต่อนายคาซูโอะ ฐาน “พรากและพาผู้เยาว์อายุไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารฯ” ส่วนนายพีรพงษ์ และนายสยุมภูว์ ฐานค้ามนุษย์ต่อไป

พ.ต.อ.เศรษฐภัทร กล่าวต่อ อีกคดี จับกุมนายเนจ ชาวแคเมอรูน อายุ 32 ปี ครูสอนภาษา ที่ลอบทำงานผิดกฎหมาย และเป็นต่างด้าวโอเวอร์สเตย์นานกว่า 5 ปี หลังตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสว่านายเนจ ได้ประกอบอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตำบาศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู จึงประสานกรมจัดหางานจังหวัดและชุดสืบสวนตำรวจภูธรหนองบัวลำภู พร้อม ชุดสืบสวน ตม.นำรถสายตรวจอัจฉริยะเข้าตรวจสอบพบว่า นายเนจได้เดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2558 จนครบกำหนด ทั้งนี้ไม่พบเอกสารประจำตัวหรือใบอนุญาตทำงาน และสอบถามทราบว่าได้ทำงานมาแล้ว 2 เดือน ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการผลักดันกลับประเทศตามขั้นตอนกฎหมาย

พ.ต.อ.เศรษฐภัทรกล่าวอีกว่า คดีต่อมา จับกุมนายอัดนัน อาลี นาสเซอชาวเยเมน อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดซึ่งได้จ้างวานให้มีผู้นำยาเสพติดมายัดกับอดีตภรรยาชาวไทยและญาติ โดยหวังแก้แค้นศาลแพ่งยกฟ้องคดี ข้อหาผิดสัญญาเรียกเงินคืน

สืบเนื่องจากมีผู้แจ้งความมาที่ สภ.ดม จ.สุรินทร์ ว่า นายอุดร ญาติของ น.ส.วิลาวัลย์ อดีตภรรยาผู้ต้องหาได้ลักลอบขนยาเสพติด เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจพบยาบ้า 135 เม็ด ซุกซ่อนในดอกดาวเรืองท้ายรถกระบะ ทะเบียน บย 5042 สุรินทร์ ขณะที่ น.ส.วิลาวัลย์ ถูกตำรวจจับกุมพร้อมพร้อมยาบ้า 55 เม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง วันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 คนให้การปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งหมด แต่เชื่อว่านายอัดนันอดีตสามีชาวเยเมน เป็นผู้วางแผน

โดย น.ส.วิลาวัลย์ให้การว่า ก่อนหน้านี้นายอัดนัน อดีตสามีได้ฟ้องร้องในคดีแพ่งข้อหาผิดสัญญาเรียกเงินคืน แต่ศาลแพ่งยกฟ้องทำให้ นายอัดนัน โกรธแค้นและวางแผนดังกล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง 2 คดี เชื่อได้ว่า นายอัดนัน จ้างวานให้ผู้ต้องหาคือนายศรชัย นายสมบัติ นายทยานและนายไลย์ ที่ปลอมตัวเป็นพระ นำยาบ้าไปผูกไว้ที่หลังรถกระบะจริง จึงนำกำลังเข้าจับกุมนายอัดนัน ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอสังขละ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย,แจ้งความเท็จ,และ ทำพยานหลักฐานเท็จ” ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image