จับแล้วอดีต รปภ.ค้อนทุบหลังป้าขายผัดไท พบประวัติก่อเหตุอื้อ

จับแล้วอดีต รปภ.ค้อนทุบหลังป้าขายผัดไท พบประวัติก่อเหตุอื้อ

 

กรณีเมื่อคืนวันที่ 8 สิงหาคม นางอัมพรพรรณ แดงอุไร อายุ 54 ปี แม่ค้าร้านผัดไท ย่านถนนข้าวสาร หน้าลานจอดรถกองสลากเดิม ถูกคนร้ายใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าและค้อนทุบหลัง ก่อนชิงกระเป๋าซึ่งมีเงินสดประมาณ 30,000 บาท แล้วหลบหนีไป

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พร้อม พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย ผกก.สน.ชนะสงคราม, พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.1 และ พ.ต.ท.ไตรรัตน์ เพ็งนู รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม

Advertisement

ร่วมแถลงผลจับกุมนายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมฉวี อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาในคดีตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1270/2562 ลงวันที่ 9 สิงหาคม ฐาน “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” จับกุมได้ที่ปากซอยหมู่บ้านสวีทโฮมปาร์ค หมู่ 14 ตำบลและอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

พล.ต.ต.เสนิตกล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาพยานหลักฐาน พบค้อนที่ใช้ก่อเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดชี้ว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายได้โบกรถแท็กซี่สีชมพู หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงเชิญคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาสอบปากคำถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ทราบว่าเป็นชายผมเกรียนสวมชุดซาฟารี สูงประมาณ 165-170 ซม. ก่อนผู้เสียหายจะชี้ตัวได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุ จึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับและส่งกำลังไปติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

Advertisement

พ.ต.อ.นครินทร์กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ตนเคยทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยมาหลายแห่ง แล้วก่อเหตุลักทรัพย์ตามสถานที่ที่ไปเฝ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เงินเพื่อนร่วมงานมาหลายครั้ง ก่อนจะลาออกไปสมัครงานเป็น รปภ.ของบริษัทอื่น กระทั่งตกงาน ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง

โดยก่อนเกิดเหตุ ได้พักอาศัยอยู่ใต้สะพานลอยพระราม 8 แล้วกำลังจะไปหางานทำในช่วงเย็น ซึ่งได้เดินผ่านมายังลานจอดรถหน้ากองสลากเก่าและเห็นว่าเปลี่ยว จึงทำทีเป็น รปภ.เพราะสวมเสื้อซาฟารี จนกระทั่งเห็นผู้เสียหายขับรถเข้ามาจอดแล้วคาดกระเป๋าลงมา จึงรอจนถึงช่วงดึก และไปหาค้อนที่ใช้ก่อเหตุจากรถกระบะในลานจอดรถ ก่อนลงมือชิงทรัพย์ดังกล่าวโดยไม่มีเครื่องชอร์ตไฟฟ้าตามคำให้การของผู้เสียหาย คาดว่าอาจเกิดจากอาการชาบนเส้นประสาทเพราะถูกค้อนทุบ และชกต่อยเข้าใบหน้า ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้นำเงินที่ได้จากการก่อเหตุไปใช้ดื่มสุรากับเพื่อนจนเกือบหมด

พ.ต.อ.นครินทร์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์โดยอาศัยความเป็น รปภ.ครั้งแรกเมื่อปี 2548 ก่อนจะหลบหนีจนหมดอายุความ โดยระหว่างนั้นยังคงก่อเหตุลักษณะเดียวกันเรื่อยมา ทั้งในพื้นที่ สน.สามเสน, สน.หนองค้างพูล, สน.บางยี่ขัน, สภ.บางเสาธง  จ.สมุทรปราการ สาเหตุที่ตามจับตัวได้ยากเพราะคนร้ายมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่ไม่เคยกลับไปพักอาศัย และจะมีที่พักไม่เป็นหลักแหล่งอยู่ในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม จากคดีล่าสุดนั้นเพิ่งจะลงมือทำร้ายร่างกายครั้งแรกเพราะผู้เสียหายคาดกระเป๋าไว้ที่เอว จึงยากต่อการชิงทรัพย์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image