กรณีครอบครัวเหยื่อผู้เสียหายที่ลูกสาววัย 14 ปี ถูกคนร้ายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรุมข่มขื่นก่อนไปเร่งรัดติดตามคดีที่กองปราบปรามตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้น
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ สน.ประเวศ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนายเอ อายุ 43 ปี น.ส.บี อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา และน.ส.ซี 23 ปี พี่สาวคนสนิท ของ ด.ญ.ดี วัย 14 ปี เดินทางเข้าสอบปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูก เสี่ยตั้ม และคนงานอีก 4 คน ข่มขืนกระทำชำเราในพื้นที่ สน.ประเวศ และ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลายครั้ง
โดยนายเอ กล่าวว่า ลูกสาวหนีออกจากบ้านไปยังอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2561 ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าลูกสาวไปอยู่กับญาติที่ จ.สงขลา ต่อมาทาง น.ส.ซี หลานสาว ได้ติดต่อมาหาตน บอกว่า ด.ญ.ดี ถูกกระทำชำเรา ซึ่งตนก็ตกใจ และรีบให้พาลูกสาวมาเจอที่กรุงเทพฯ แล้วลูกสาวก็เล่าให้ฟังว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ถูกคนในแคมป์ก่อสร้าง 4 ราย ได้แก่ นายนั่ม, นายเบ๊นซ์,นายสมร และนายเหน่ง ทั้งหมดเป็นญาติ สลับกันข่มขืนกระทำชำเราเกือบทุกวัน ภายในรถยนต์และห้องพัก ตนจึงไปแจ้งความไป และพาลูกสาวไปตรวจร่างกาย โดยแพทย์ระบุว่าพบร่องรอยการถูกกระทำเราจริง
นายเอ กล่าวต่อมา ตนไปหาเสี่ยตั้มที่แคมป์คนงาน เพื่อต้องการให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท แต่นายตั้ม ต่อรองเหลือเพียง 20,000 บาท ก่อนให้ค่าเดินทางอีก 1,000 บาท และตนก็ตกลง แต่สุดท้ายยังไม่ได้รับเงินชดเชยและติดต่อนายตั้มไม่ได้อีก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ต้องการเงินแต่เพียงต้องการดูเชิงว่านายตั้ม จะมีท่าทีอย่างไร เพราะสุดท้ายก็ยังจะดำเนินคดีต่อคนผิดให้ถึงที่สุดอยู่ดี
นายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จะเป็นผู้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 4 ที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนคดีที่ สน.ประเวศ นั้น ก็ต้องให้ทางพื้นที่เป็นคนจัดการ โดยในวันนี้ทางเสี่ยตั้ม ติดต่อมาบอกว่าจะนำเงิน 20,000 บาท มาให้ครอบครัวของ ด.ญ.ดี เพื่อให้จบคดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาแต่อย่างใด
ต่อมา พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.ประเวศ พร้อมชุดสืบสวน สน.ประเวศ เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่แคมป์คนงานก่อสร้างแห่งหนึ่งเพื่อตามหานายตั้ม แต่ไม่พบตัว
โดย พ.ต.อ.อภิวัชร์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลพระโขนง อนุมัติออกหมายจับนายตั้ม ข้อหา “พรากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา,พาเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” เนื่องจากมีรายงานแพทย์ชี้ชัดว่าเด็กหญิงวัย 14 ถูกกระทำชำเราจริง อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวที่ว่ามีนกต่อในพื้นที่ประเวศนั้น ตอนนี้ทราบว่ามีนายตั้มเพียงคนเดียวที่ล่อลวงเด็กไป จึงยังต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ามีลักษณะเป็นขบวนการค้ามุษย์หรือไม่
