ป้องกันโต้แย้งภายหลัง รองโฆษกตร.ยันไม่ขอศาลออกหมายจับตามภาพถ่ายเด็ดขาด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิดและก่อเพลิงไหม้ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า นับแต่เกิดเหตุจนปัจจุบันสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้แล้ว 2 ราย และออกหมายจับ 4 ราย ซึ่งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงทำงานเรื่อยมาและมีความคืบหน้าตลอด โดยคาดว่าจะเตรียมออกหมายจับในเร็วๆ นี้ หากมีผลพิสูจน์เชื่อมโยงถึงตัวคนร้ายซึ่งเตรียมตัวกันมาดี แบ่งหน้าที่กันก่อเหตุ

แต่ทางเรายืนยันว่าจะไม่ขอศาลออกหมายจับตามภาพถ่ายเด็ดขาด หากไม่มีรายละเอียดตัวบุคคล ภูมิลำเนา หรือหน้าที่ที่คนร้ายได้กระทำในวันก่อเหตุ เพื่อป้องกันการโต้แย้งทางกฎหมายในอนาคต ซึ่ง ผบ.ตร.ก็ได้รับนโยบายกรอบกฎหมายตามรัฐบาล ทำงานแข่งขันกับเวลา และต้องเคารพสิทธิผู้ต้องหา

ส่วนเรื่องการโอนคดีไปยังกองปราบปรามนั้น ต้องชี้แจงว่าเป็นการมอบหมายให้พนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่ที่เกิดเหตุทั้งกรุงเทพฯ และนนทบุรี รวบรวมสำนวนทางคดีไปให้กองปราบฯ ดำเนินการทางธุรการรวมถึงการรวมเลขคดีสั่งฟ้องศาล เพราะหากต่างคนต่างทำหลายท้องที่ก็จะยุ่งยากวุ่นวาย ส่วนประเด็นที่ว่าจะต้องประสานอัยการสูงสุดเป็นชุดทำงานสอบสวน เนื่องจากมีตัวการอยู่ต่างประเทศนั้น ตอนนี้ยังไม่ดำเนินการถึงขั้นนั้น แต่เรื่องคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งก็ได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจตราตามแนวชายแดนคอยสกัดกั้นบุคคลต้องสงสัยอย่างเข้มงวด

รายงานความคืบหน้าการเตรียมดำเนินการขออนุมัติออกหมายจับมือวางระเบิดและก่อเพลิงไหม้ป่วนกรุงระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมา รอบพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่องจังหวัดนนทบุรีว่า คณะทำงานสืบสวนสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ได้ประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับชุดทำงานในสังกัดอยู่ตลอดเวลานับแต่เกิดเหตุ โดยขณะนี้กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ก่อนจะขออนุมัติศาลออกหมายจับมือวางระเบิดประมาณ 6-8 ราย หากข้อมูลเพียงพอภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นก็จะขอออกหมายจับได้ทันที

Advertisement

ซึ่งในวันนี้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) เดินทางลงติดตามความคืบหน้าของคดีที่ภาคใต้ แต่อย่างไรก็ตาม ในจำนวนมือวางระเบิดที่ประมาณการณ์ไว้ว่ามีจำนวน 15 รายนั้น บางส่วนก็หลบหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่ 1-2 วันแรก ที่เกิดเหตุเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image