อดีตเมีย’สามารถ พยัคฆ์อรุณ’ฟ้องแบ่งสมบัติหลังหย่า นักมวยเสนอให้1ล้าน ไม่แฟร์ สร้างตัวมาด้วยกัน

อดีตเมีย “สามารถ พยัคฆ์อรุณ” ขึ้นศาลสืบพยาน คดีฟ้องแบ่งสินสมรส หลังหย่าขาดจากกันแต่ยังเคลียร์ปัญหาไม่ลงตัว เผยนักมวยดังเสนอเงิน1ล้าน จบทุกอย่างทั้งที่สร้างมาด้วยกัน อดีตเมียยันไม่เเฟร์ สู้สร้างทุกอย่างด้วยกัน

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ศาลเเพ่งมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในคดี ที่ น.ส.วลัยทิพย์ ภพธีรธรรม อดีตภรรยานายสามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตนักมวยแชมป์โลก เจ้าของฉายา “นักชกหน้าหยก” ยื่นฟ้องนายสามารถ ในคดีฟ้องแบ่งสินสมรส และเคลียร์ภาระหนี้สินที่มีร่วมกัน

โดยวันนี้ น.ส.วลัยทิพย์ พร้อมทนายความเดินทางมาศาล น.ส.วลัยทิพย์ กล่าวว่า หลังจากจดทะเบียนหย่า ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 60 ตอนแรกเหมือนจะตกลงกันรู้เรื่องไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่หลังจากหย่าแล้วนายสามารถอดีตสามีกลับคำ ทำให้ไม่สามารถแบ่งสินสมรสกันได้ลงตัว ที่อ้างว่าไม่มีเงินเเล้วทำไมไม่คุยกัน เเถมยังบอกกับตนเองว่าให้ไปฟ้องเอาทรัพย์สินได้เลยเเม่ของภรรยาอีกคนได้เตรียมทนายไว้แล้วพี่ไม่ได้เสียเปรียบ ซึ่งหนี้สินที่มีก็เป็นการกู้ร่วมกันกู้มาทำค่ายมวยด้วยกัน คนเรามันเลิกกันเเล้วก็ควรจะเคลียร์กัน

ที่ผ่านมาศาลเยาวชนและครอบครัวกลางก็เคยเชิญเรามาไกล่เกลี่ยกันเเต่นายสามารถก็ไม่เคยมา ส่วนทนายที่ส่งมาไกล่เกลี่ยก็พูดออกมาว่านายสามารถบอกมาว่าไม่สามารถตกลงอะไรกันได้นอกจากจะจ่ายเงินแค่1ล้านบาทบ้านที่เป็นชื่อตนในขณะนี้ก็จะให้ตนออกไปโดยได้เงินแค่1ล้านบาททางที่เราสร้างมาด้วยกันอยากทำบ้านทำค่ายมวยก็เป็นชื่อกู้รวมกันทุกสิ่งอย่างซึ่งทำเเบบนี้ไม่มีใครรู้สึกว่ามันเเฟร์ มันไม่เป็นธรรม

Advertisement

จนกระทั่ง วันที่ 22 ส.ค.60 นายสามารถบอกกับตนเองว่าต้องการขายค่ายมวย ที่ร่วมกู้สร้างมาด้วยกัน เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ที่มีร่วมกัน แล้วนำเงินที่เหลือมาแบ่งกัน แต่หลังจากนั้นก็มีการกลับคำไม่ยอมขายค่ายมวย และ ต้องการดำเนินการต่อเพียงคนเดียว ตนเองจึงได้ฟ้องต่อศาลตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมาศาลได้นัดเพื่อไกล่เกลี่ย 3-4 ครั้ง แต่อดีตสามีก็ไม่เคยเดินทางมาเลย ส่งเพียงทนายความมาดำเนินการโดยเสนอเงินให้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น และพยายามหลบหน้าตน ไม่สามารถติดต่อได้ ตนเองรู้สึกไม่ยุติธรรมเพราะหนี้สินที่กู้แบงก์มาก็ยังเป็นชื่อกู้ร่วมกัน โดยที่อดีตสามีไม่ยอมไปติดต่อธนาคารเพื่อเคลียร์เรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องพบหน้ากันกับอดีตสามี ซึ่งตนเองก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเคลียร์กันลงตัวหรือไม่ แต่ก็อยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพราะยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี แล้ว

ด้านนายธงรัช วราสุวรรณ ทนายความ กล่าวว่า เมื่อหย่ากันแล้ว ก็สามารถที่จะตกลงแบ่งสินสมรสกันได้ แต่เมื่อไม่สามารถทำตามข้อตกลง ก็จำเป็นต้องฟ้องตามกฎหมาย เพื่อเเบ่งตามสิทธิส่วนเงื่อนไขเป็นอย่างไรขอให้คุยในคดี

โดยหลังจากที่เราฟ้องคดีนี้เเล้ว นายสามารถ ยังได้ฟ้องร้องอีกคดีซึ่งเป็นหนี้สินตัวเดียวกันซึ่งเป็นทรัพย์สินนอกสมรส ซึ่งเรามองว่าเป็นการฟ้องซ้ำในคดีที่เราเป็นโจทก์อยู่ วันนี้ศาลจึงกำหนดนัดพร้อมทั้งสองคดีเราก็ต้องดูว่าในวันนี้จะมีแนวโน้มอย่างไรหรือจะดำเนินการสืบพยานไปเลย
ซึ่งทรัพย์สินที่ฟ้องจะเป็นที่ดินในจังหวัดขอนแก่นที่ไหนสามารถยื่นฟ้องแย้งเข้ามาด้วย ที่เราฟ้องคือขอให้แบ่งสินสมรสหากมีการขายที่โจทก์ใช้ที่เหลือก็แบ่งกันเท่านั้นเอง แต่ที่ดินที่มีการผิดพลาดก็คือที่ในจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นที่ดินส่วนตัวและเป็นชื่อของมารดา น.ส.วลัยทิพย์ เเต่นายสามารถมองว่าเป็นสินสมรสอยู่ 30% ก็ต้องไปว่ากันในศาล ก็ต้องดูว่าวันนี้ศาลจะสั่งไกล่เกลี่ยอีกรอบหรือไม่เพราะที่ผ่านมานายสามารถไม่ได้มาด้วยตัวเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image