กรณีนายอ้าย จง (MR.ZHONG AI) นักธุรกิจยางพาราชาวจีน อายุ 30 ปี แจ้งความกับตำรวจ สน.คลองตัน หลังถูกคนร้ายซึ่งเชื่อว่าเป็นโชเฟอร์แท็กซี่รูดทรัพย์เป็นนาฬิกาหรู ฟิลิปปาเต๊ะ แหวนแต่งงาน และโทรศัพท์มือถือ รวมมูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาท ก่อนทิ้งเหยื่อไว้ริมถนนหน้าซีคอนโด กลางซอยเอกมัย 12 ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ความคืบหน้าในช่วงบ่ายวันที่ 3 กันยายน ที่ สน.คลองตัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก ผกก.สน.คลองตัน เรียกประชุมชุดสืบสวน สน.คลองตัน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวโดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยมีรายงานว่า หลังจากชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุหน้าสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ ที่ไปดื่มกินกันกับกลุ่มลูกค้าที่มาติดต่องานเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พบรถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ 4-5 คัน แต่ยังไม่สามารถระบุสีและทะเบียนของรถแท็กซี่ได้ เจ้าหน้าที่จึงเรียกพยานแวดล้อม เป็นเลขาของนักธุรกิจชาวจีน และคนขับรถแท็กซี่มาสอบปากคำประมาณ 4-5 คน เบื้องต้นคาดว่าเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีจะเป็นถนนเพชรบุรี ซึ่งยังต้องตรวจสอบจุดเริ่มต้นและเส้นทางหลบหนีอย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคนขับรถแท็กซี่คันที่ 2 ที่ไปส่งนักธุรกิจหนุ่มถึงยังที่พักมาสอบปากคำ ทราบว่าในวันเกิดเหตุ โชเฟอร์ได้รับผู้เสียหายจากซอยเอกมัย 12 จุดหมายปลายทางไปที่ซอยเอกมัย 30 ซึ่งยังกันตัวไว้ในฐานะพยาน
ต่อมาเวลา 14.50 น. นางธนัชพร พวีศิลป์ อายุ 41 ปี เลขานักธุรกิจชาวจีน เดินทางมาตามความคืบหน้าทางคดีพร้อมกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ เจ้านายตนไปรับรองลูกค้า 3 กลุ่ม ที่ร้านอาหารจีนย่านอาร์ซีเอ จนช่วงเวลา 05.00 น. ก็เหลือคนเดียว แล้วเจ้าของร้านอาหารจึงพาไปส่งขึ้นรถแท็กซี่กลับคอนโดที่ซอยเอกมัย 30 แต่มาถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ซอยเอกมัย 12 เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าทรัพย์สินทั้งหมดได้หายไปแล้ว เนื่องจากตอนขึ้นรถนายตนบอกว่ายังมีทรัพย์สินอยู่ ทั้งนี้ เจ้านายต้องการติดตามของสำคัญกลับคืนมา โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่เก็บรายละเอียดงานลูกค้ากับแหวนแต่งงานที่มีคุณค่าทางจิตใจ ต่อจากนี้จะต้องรอตำรวจติดต่อกลับมาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง
