ย้อนอ่านนาทีสุดท้าย ‘บิลลี่’ จากปากภรรยา

ครอบครัว พอละจี บิลลี่ รักจงเจริญ

หลังจาก นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ควบคุมตัวไปในข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่า หลังจากนั้นไม่มีใครพบเห็นอีก

ล่าสุด วันนี้ (3 กันยายน) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนคดีการหายตัวไปของนายพอละจี หลังพบวัตถุต้องสงสัยและชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์ บริเวณสะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน จากการตรวจสอบพบว่า สารพันธุกรรมตรงกับ นางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายพอละจี

เมื่อพิจารณาจากสถานที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานในสำนวนอื่นประกอบกัน จึงเชื่อว่าวัตถุดังกล่าวเป็นกระดูกของนายพอละจี รักจงเจริญ

ย้อนอ่าน : ดีเอสไอ แถลง พบชิ้นส่วนกะโหลก ‘บิลลี่ พอละจี’ จ่อเรียกจนท.อุทยานเกี่ยวข้องสอบปากคำ

Advertisement

ย้อนอ่าน : หรือบ่ายนี้ไม่มีความหมาย เมื่อเสียงจากผู้สูญหาย และ 15 ปี ของทนายสมชาย ยังไร้ซึ่งความจริง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 นางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ และลูกสาว ได้เข้าร่วมงาน “15 ปี สมชายและเสียงจากผู้สูญหาย” วันนั้นพิณนภากล่าวถึงช่วงเวลาครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นบิลลี่ ว่า

“บิลลี่เป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีตำแหน่งอะไร ตั้งแต่เด็กพยายามค้นหาความรู้เพื่อช่วยหมู่บ้านของตัวเองที่อยู่ในเขตอุทยานฯ จนวันหนึ่งหมู่บ้านถูกเผา ไม่มีอะไรเหลือ บิลลี่พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รับความยุติธรรม จนสมัครเป็นสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง แต่เป็น สมาชิก อบต.ได้เพียงปีกว่า บิลลี่ก็หายตัวไป

Advertisement

 


“17 เม.ย. ปี 2557 มีชาวบ้านบอกว่าเจ้าหน้าที่อุทยานควบคุมตัวไป น่าจะเพราะน้ำผึ้งป่าที่เอาลงมาด้วย แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่มีใครติดต่อบิลลี่ได้อีก”

“เช้าวันที่ 19 เมษายน มาแจ้งความ ที่ สภ.แก่งกระจาน เจ้าหน้าที่บอกว่า ‘คนถูกจับตัวไปไม่ใช่คนหาย จะมาแจ้งความได้อย่างไร’ บ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่บอกว่าได้ประสานงานกับหัวหน้าอุทยานในพื้นที่แล้ว”

“จับตัวจริง แต่ปล่อยไปแล้ว ไม่ได้ทำอะไร”

“ครั้งสุดท้าย บิลลี่ออกจากบ้านไปทำหน้าที่ อบต. ขี่มอเตอร์ไซค์สีเหลืองดำ ป้ายทะเบียน ขพง 988 เอากระเป๋าเป้เสื้อผ้า มือถือ และกล้องไปด้วย” พิณนภาเล่ากับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเผยว่า “หนูเล่าจบและเริ่มต้นใหม่ วนไปวนมา เขาบอกว่า ‘หนูใจเย็นๆ ค่อยๆ คิดค่อยๆ พูด’ หนูนึกในใจว่าทำไมต้องถามอย่างนั้นเพราะหนูไม่ได้งง ทำไมต้องถามวนไปวนมา”

นอกจากนี้ พิณนภายังได้เข้ายื่นหนังสือที่ศาลอาญา จ.เพชรบุรี ให้หัวหน้าอุทยานออกนอกพื้นที่เพื่อความโปร่งใสในการค้นหาตัวบิลลี่ แต่ก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงไปกองพิสูจน์หลักฐาน และเดินหน้าขึ้นศาล

“ไปศาลชั้นต้นก็ยกคำร้อง ยื่นศาลอุทธรณ์ก็ยกคำร้อง ยื่นศาลฎีกาก็ยกคำร้อง เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image