กรณีเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายประจักษ์ชัย ศิริเวช อายุ 35 ปี พ่อครัวของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี ถูกตำรวจสายตรวจ นายหนึ่งชื่อ “จ่าแซม” ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะจนเสียชีวิต โดยนายสมใจ ศิริเวช อายุ 37 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต ระบุว่า สาเหตุเกิดจาก นายประจักษ์ชัย ถืออาวุธเหล็กแหลมขึ้นมาทวงเงินเดือนที่ออฟฟิศ ขณะนั้นมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ โดยขณะที่น้องชายกำลังวางอาวุธลงตามคำสั่งของตำรวจ แต่ปรากฏว่าน้องชายมีท่าทีจะพุ่งเข้าใส่ จึงถูกยิง โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าป้องกันตัว ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมใจ ศิริเวช อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายผู้เสียเสียชีวิต พร้อมนายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ เข้ายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้ออกหมายเรียกกล้องวงจรปิดจากโรงแรมที่เกิดเหตุ เพื่อเปิดเผยความจริงว่าทำไมน้องชายจึงถูกยิงตาย โดยมี พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ทิพย์โยธา รอง ผบก.สส. ในฐานะเวรอำนวยการประจำวัน เป็นผู้รับเรื่องไว้ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป
ด้านนายวรกร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ นายประจักษ์ชัย ผู้ตาย ได้หมอบลงกับพื้น และบอกว่ายอมแล้ว แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าศีรษะด้านหลัง ทำให้ญาติติดใจว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวจริงหรือไม่ จึงจะเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด และขอให้ ผบ.ตร. ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว เนื่องจากไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจในท้องที่ว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่
ขณะที่นายสมใจ พี่ชายผู้ตายกล่าวว่า น้องชายทำงานเป็นเชฟในโรงแรมดังกล่าวมานานกว่า 4 ปี และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร โดยหลังเกิดเหตุตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางโรงแรมกลับบอกว่าภาพกล้องวงจรปิดเสีย ทั้งนี้ตนก็อยากทราบข้อเท็จจริงและอยากเห็นภาพทั้งหมดในวันเกิดเหตุ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไปเพื่อป้องกันตัวจริง ก็จะไม่ติดใจเอาความ
