เมื่อวันที่ 10 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด ควบคุมตัวนายอัศวิน หบุญเมือง ฉายา “เอก หัวลำโพง” อายุ 44 ปี ชาว จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.322/2562 ลงวันที่ 6 กันยายน 2562 กระทำผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อหลบหนี” ที่ก่อเหตุปล้นทองรูปพรรณไปจากร้านออโรร่า สาขาห้างตั้งฮั้วเส็ง รวมน้ำหนักกว่า 155 บาท มูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่าหลักล้าน พร้อมเงิสดอีก 4 หมื่นบาทก่อนชิ่งจักรยานยนต์หลบหนีไป ไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาตลิ่งชัน โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นโทษที่มีอัตราสูง ซึ่งนายอัศวิน มีอาการกังวลและปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์
ช่วงสายวันเดียวกน ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน ถ.ทุ่งมังกร พนักงานสอบ สน.บางพลัด ได้นำตัวนายอัศวิน บุญเมือง ฉายา เอก หัวลำโพง ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธชิงทอง”ร้านทองออโรร่า มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกโดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณสรุปว่า
เมื่อวันที่ 5 ก.ย.เวลาประมาณ 19.55 น.ผู้ต้องหานี้ได้ทำทีเข้าไปซื้อทองคำรูปพรรณในร้านทองออโรร่า ภายในห้างฯ ตั้งฮั่วเส็ง ถนนสิรินธร แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ก่อนใช้ปืนบีบีกัน ชิงทองคำรูปพรรณหนัก 155 บาท และเงินสด 40,000บาท ขี่จยย.หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางพลัด ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.322/2562 ลงวันที่ 6 ก.ย.62 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 62 ขณะหลบหนีมากบดานที่ห้องพัก 1403 ชั้น 4 โรงแรมอลิซ ซ.งามวงวานศ์ 18 แยก 4 ต.ตลาดขวัญอ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัดดำเนินคดี ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาพรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร มีิอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และขับจยย. โดยไม่มีใบอนุญาตขับและใช้รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน
ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหา
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร และอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 – 21 ก.ย.นี้
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดคัานการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ไม่ปรากฏว่า มีญาติผู้ต้องหายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวนายอัศวิน ผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป.