บุกกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ที่สระบุรี

เมื่อวันที่ 16 กันยายน พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) เปิดเผยว่า พ.ต.อ.อัครเดช เกตุเอี่ยม ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ และ พ.ต.ต.พัฒน์ชพล มีนวลสิน สว.กก.2 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายสัญญา หรือจุก เกตุพัตร์ อายุ 43 ปี สัญชาติไทย อยู่ที่ 267/1 หมู่ 9 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และ น.ส.วัฒนพร หรือใหม่ คงเจริญเขต อายุ 29 ปี อยู่ที่ 2/57 ซ.10 (ถนนเทศบาล 4) ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ. สระบุรี ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี

พล.ต.ต.วรวัฒน์กล่าวว่า เมื่อระหว่างเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปคม. สืบสวนทราบว่า มีขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี นําเด็กมาบังคับค้าบริการทางเพศผ่าน ช่องทางโซเชียลมีเดียหลายโปรแกรม โดยใช้สถานที่ซึ่งแอบลักลอบเปิดเป็นโรงแรมเถื่อนกลางเมือง สระบุรีเป็นที่ให้บริการแก่ลูกค้า จึงปลอมตัวเข้าไปแฝงตัวในกลุ่มลับของขบวนการดังกล่าว จนพบว่ามีนายหน้าชื่อ นายสัญญา เกตุพัตร์ ซึ่งใช้ชื่อบัญชีว่า “จุก แก่งคอย” มีการเสนอขายบริการทางเพศ เด็กหญิงซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยมักจะล่อลวงเด็กหญิงในจังหวัดสระบุรีมาค้าประเวณี เจ้าหน้าที่จึงขอชื่อและเบอร์โทรศัพท์เพื่อใช้การติดต่อขอซื้อบริการทางเพศเด็กจากขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าว

จนเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ณัฐพล และ พ.ต.ต.พัฒน์ชพล จึงนำกำลังเข้าล่อซื้อบริการทางเพศจาก ขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าว โดยนัดหมายให้นําเหยื่อจากการบังคับค้าประเวณีผ่านช่องทางออนไลน์มาส่งให้กับเจ้าหน้าที่อําพรางตัว โดยวางกําลังซุ่มอยู่บริเวณห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.สระบุรี จนกระทั่ง น.ส.วัฒนพร น้าของเหยื่อได้ขับรถนําเหยื่อมาส่งให้ตามที่นัดหมายไว้กับเจ้าหน้าที่ตํารวจ เพื่อบังคับค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ตํารวจที่วางกําลังจึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวนายสัญญา และ น.ส.วัฒนพร แจ้งข้อหา “สมคบกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทําแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทําการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และไม่ว่าการกระทําต่างๆ อันประกอบเป็นความผิด นั้นจะได้กระทําภายในหรือนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการกระทําแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น, เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงแม้ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทําแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ฯลฯ”

Advertisement

จากนั้นจึงทําการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายสัญญารับว่ามีอาชีพเป็นพนักงานไทไทรีสอร์ต จ.สระบุรี ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงแรม แต่ลักลอบเปิดให้บริการเถื่อน ตนจึงได้นําเด็กมาบังคับค้าประเวณีให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียงและนักธุรกิจใน จ.สระบุรี เป็นจํานวนหลายครั้ง โดยทํามาประมาณ 1 ปีกว่า และมีเด็กหญิงในสังกัดประมาณ 15 คน ซึ่งจะนําเงินที่ได้จากการค้ามนุษย์มาซื้อยาเสพติดและเที่ยวเตร่ ส่วน น.ส.วัฒนพร รับว่าเป็นน้าของเหยื่อ มีอาชีพเปิดร้านอาหาร แต่จะนําเหยื่อมาให้บริการแก่ลูกค้าโดยจะจูงใจในการให้ค่าตอบแทนและผลประโยชน์รูปแบบต่างๆ กับหลานที่นํามาค้าประเวณี จึงจับกุมผู้ต้องหาส่ง พงส.กก.2 บก.ปคม.ดําเนินคดี และจะได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายของผู้ต้องหาและผู้มาใช้บริการเด็ก และเยาวชนทั้งหมดดําเนินการตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.ณัฐพล กล่าวอีกว่า พล.ต.ต.วรวัฒน์ และ พ.ต.อ.อัครเดช สั่งการให้สืบสวนขยายผลหา กลุ่มผู้กระทำความผืดที่มาติดต่อซื้อบริการเหยื่อผู้เสียหาย และเจ้าของธุรกิจที่เปิดให้บริการแฝงการค้ามนุษย์ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เบื้องต้นจากการสอบปากคำเหยื่อทราบข้อมูลเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มนักเที่ยวว่าหากใครมีความประสงค์จะใช้บริการก็ต้องเดินทางมาที่รีสอร์ตดังกล่าว

พ.ต.ท.ณัฐพล กล่าวอีกว่าจากการสืบสวนทราบว่ามีพนักงานของรีสอร์ตบางคนมีส่วนร่วมรู้เห็นในการนำเด็กเยาวชนมาค้าบริการ เพราะก่อนหน้ามีข้อมูลว่าเคยมีพนักงานของรีสอร์ตถูกจับกุมดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันมาแล้ว สำหรับการขยายผลในการสืบสวนหาผู้กระทำความผิดที่มีนายหน้านำเหยื่อมาค้าบริการนั้น มีมากกว่า 10 ราย ที่พาเหยื่อมาค้าบริการ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่าสำหรับรีสอร์ตดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ที่ผ่านมาผู้เกี่ยวข้องไม่เคยเข้ามาตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image