เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)ได้ควบคุมตัว น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา อายุ 40 ปี กรรมการบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด ผู้ต้องหา คดีฉ้อโกงเงินลูกค้าโปรแกรมอาหารบุฟเฟต์ร้านอาหารแหลมเกต มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ก.ย. เนื่องจากกระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 6 ปากรอผลการตรวจสอบประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ ผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอื่นๆ
โดยคำร้องพฤติการณ์สรุปว่า นายโจม พารณจุลกะ กรรมการบริษัท ผู้ต้องหาที่1 (ถูกจับและยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้แล้ว) กับ น.ส.ประภัสสร ผู้ต้องหาที่2 ได้เปิดบริษัท แหลมเกตอินฟินิท และได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิค ทางทางเฟซบุ๊ก และทางเว็บไซด์ของร้านชื่อ www.laemgate.net และ Line:@laemgate จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็น จำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่นและมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น “โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์” ขายเป็นชุดๆละ 880 บาท มี 10ใบหรือที่นั่งๆ ละ 88 บาท, “โปรนาทีทองมาแล้วจ้า” ขายเป็นชุดๆ ละ 2,020 บาท มี20 ที่นั่งๆละ 101 บาท, “โปรแฟนพันธุ์แท้” ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆละ 100 บาท โปรโมชั่นหมีหมี เป็นต้น โดยลูกค้าต้องจองคิววันเข้าไปทานอาหารผ่านทางระบบออนไลน์ของร้านถึงจะเข้าไปรับประทานอาหารได้ หากผู้ใดสนใจให้โอนเงินไปทาง บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 0401759603 ชื่อ บัญชี บจก.แหลมเกต อินฟินิท จนมีคนหลงเชื่อโอนเงินไปจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.2562 ทางร้านอาหารแหลมเกต อินฟินิท ได้ประกาศทางโปรแกรมไลน์เฟซบุ๊ก ขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชั่น เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและเกินความคาดหมาย ทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอ ต่อความต้องการ เพราะใช้วัตถุดิบสูงเกิอนกว่าที่คาดการณ์ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวน 350 รายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ทั้งนี้มูลค่าความเสียหายทั้งหมดเท่าที่มีผู้เข้ามาแจ้งความรวมกว่า 2,207,720 บาท และยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนจำนวนมาก พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหา และศาลอาญาได้ออกหมายจับที่ 1086/2562 ลงวันที่ 24 ก.ค.2562
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 82 ,341,343
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก คดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก มีมูลค่าสูง หากให้ประกันเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การฝากขัง น.ส.ประภัสสร ผู้ต้องหาวันนี้นั้น ปรากฎว่ามีญาติ มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัทสินมั่นคงฯ ขอปล่อยชั่วคราว จำนวน 3 แสนบาท ซึ่งศาลพิจารณาแล้วก็อนุญาตให้ประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท
ส่วนนายโจม นั้น ตำรวจ บก.ปคบ.ได้นำตัวมาฝากขังตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ย. และทางศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวด้วย กรมธรรม์ประกันอิสรภาพของ บริษัท วิริยะประกันภัยฯ จำนวน 3 แสนบาทเช่นกัน
