เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กันยายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายยอดชาย ทับทิมทอง หรือ พระอธิการยอดชาย ยัติโกอายุ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ่อน้ำเงิน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.3 ต.ซากไทย อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทร์บุรี ที่ 249/2562 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2562 ข้อหา“ เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไป ” จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาคิชฌกูฏ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยตรวจสอบวัดบ่อน้ำเงินราษฎร์บำรุง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ซากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี หลังพบว่าพระวัดดังกล่าวจำนวนหลายรูปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ มั่วสุมยาเสพติด มั่วสีกา เปิดเพลงเสียงดัง ไม่ออกรับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน และไม่ปฏิบัติตามวินัยของสงฆ์ จากการตรวจสอบพบวัดดังกล่าวมีพระลูกวัดจำนวน 4 รูป โดยผลการตรวจปัสสาวะพบพระลูกวัดจำนวน 2 รูป มีสารเสพติดในร่างกาย โดยพระทั้ง 2 รูป นี้ให้การรับสารภาพว่ายาเสพติดที่นำมาเสพนั้นรับซื้อมาจากพระอธิการยอดชาย เจ้าอาวาส ผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการนิมนต์พระอธิการยอดชาย ไปทำการตรวจปัสสาวะ แต่ทางพระอธิการยอดชาย กลับไม่ยินยอมพร้อมกลับรีบเดินเข้าไปในพระอุโบสถโดยอ้างว่าจะขอทำกิจของสงฆ์ ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองกัน
กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พระอธิการยอดชาย ได้ยอมที่จะตรวจปัสสาวะ แต่มีข้อแม้ว่าจะขอไปตรวจที่วัดวังทอง เพื่อจะให้เจ้าคณะตำบลรู้เห็นด้วย พร้อมกับขอเดินทางไปด้วยตนเอง โดยให้ จนท.รออยู่ที่วัดบ่อน้ำเงิน เจ้าหน้าที่จึงยินยอม กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แต่พระอธิการยอดชาย กลับยังไม่เดินทางกลับมาที่วัด จึงตัดสินใจส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่วัดวังทอง ก่อนจะทราบว่าพระอธิการยอดชาย ไม่ได้เดินทางมาตรวจปัสสาวะกับทางเจ้าคณะตำบลแต่อย่างใด แต่กลับอาศัยจังหวะดังกล่าวหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่โดยมีหญิงสาวรายหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี เป็นช่างเสริมสวยขับรถกระบะ 4 ประตู สีขาว มารับเพื่อพาหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าตรวจค้นภายในกุฎิของพระอธิการยอดชาย แต่ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงสมุดบัญชีธนาคารของวัด ที่มียอดเงินติดบัญชีไม่ถึงร้อยบาท เจ้าหน้าที่จึงได้นำสมุดบัญชีธนาคารไปทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินจนกระทั่งพบว่า ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบวัดนั้น พระอธิการยอดชาย ได้แอบเบิกถอนเงินรายได้จากการจัดงานฝังลูกนิมิตจากบัญชีธนาคารของวัดจำนวนเกือบ 4 ล้านบาท ออกไปใช้จ่ายส่วนตัวจนหมด จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับในความผิดดังกล่าว กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบสืบทราบว่าพระอธิการยอดชาย ปัจจุบันได้หลบหนีมาเปิดร้านอาหารตามสั่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน พระอธิการยอดชาย ให้การปฏิเสธ และขอให้รายละเอียดในชั้นศาลเพียงเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาคิชฌกูฎ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
