ผบ.ตร.เร่งแก้พงส.ฆ่าตัวตาย ปัดฝุ่น”แท่งพนักงานสอบสวน” โยกย้ายแยกปราบปราม สืบสวน

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 30 กันยายน ที่ห้องบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดการสัมมนาการพัฒนาการบริหารงาน บุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวน เพื่อระดมความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานสอบสวน เพื่อร่วมรับฟังปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพัฒนาการบริหารงานบุคคลในสายงานสอบสวน โดยมีพนักงานสอบสวนจากทั่วประเทศกว่า 300 นาย เข้าร่วม ทั้งนี้ในช่วงบ่าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางเข้าร่วมรับฟังการแถลงผลการสัมมนาจากพนักงานสอบสวนด้วย

สำหรับกิจกรรมการสัมนาในช่วงเช้าเป็นการแบ่งกลุ่มสัมนาเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กระบวนการสรรหาบุคลากรเพื่อทำหน้าที่พนักงานสอบสวนทุกระดับ กลุ่มที่ 2 การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานสอบสวน กลุ่มที่ 3 ระบบสนับสนุนงานสอบสวนและการสร้างแรงจูงใจ กลุ่มที่ 4 การหมุนเวียนพนักงานสอบสวนไปทำหน้าที่อื่น

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยก่อนเข้าฟังการสัมนา ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ตนมารับฟังปัญหา ที่ได้มีการสัมนากันไปในช่วงเช้า ไปเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนในอนาคต ซึ่งได้วางแนวทางการแก้ปัญหาออกเป็น 3 ระยะ คือระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว สำหรับระยะเร่งด่วน ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรม แต่ต้องดูองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ซึ่งตนก็จะไปสรุปความคิด และไประดมความคิดกับผู้บริหารของ ตร. ว่าจะแก้ไขอย่างไร ลำพังตนคนเดียวคงทำไม่ได้ ทั้งนี้ปัญหาพนักงานสอบสวนที่ผ่านมา ตนก็ไม่อยากจะเหมาหรือโทษคนที่เสียชีวิตไปแล้ว บางครั้งเขาก็ไม่อยากมาเท่าไหร่ แต่การเยียวยาต้องมี ส่วนการแต่งตั้งในระดับ สว.-รอง ผบก. ที่จะถึงนี้ มีผลที่พนักงานสอบสวนไปอยู่ในแท่งเดียวกับป้องกันและปราบปราม งานสืบสวน ก็ต้องกลับมาพิจารณาใหม่ ซึ่งการเกลี่ยพนักงานสอบสวนมีหลายแบบ และปัญหามีหลายองค์ประกอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร. มองว่าบุคคล งบประมาณ หรือโอกาสในการเลื่อนไหล ตรงไหนเป็นจุดจำคัญในการที่จะเข้ามาแก้ปัญหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มันก็มีทุกจุดที่ต้องแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคน คุณวุฒิ เงินค่าตอบแทน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตร. แก้ปัญหาเรื่องนี้มาตลอด

Advertisement

ต่อมาเวลา 15.50 น. ภายหลังเข้ารับฟังความคิดเห็นของพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้สัมภาษณ์ว่า มูลเหตุที่มาสัมนาในวันนี้ก็มีด้วยกันหลายเรื่อง เรื่องที่พนักงานสอบสวนฆ่าตัวตายก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย ตนได้รับฟังปัญหาของพนักงานสอบสวนจากการสัมนา 4 กลุ่ม แล้วได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร รีบสรุปผลการพูดคุย จะได้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือการแก้ปัญหาพนักงานสอบสวนที่ถูกแต่งตั้งผิดฝั่งผิดสาย การแต่งตั้งคนไม่มีคุณวุฒิไปอยู่งานสอบสวน รวมถึงพนักงานสอบสวนเองก็มีข้อร้องขอให้มี “แท่งพนักงานสอบสวน” ไว้ เราก็ต้องนำเรื่องนี้มาปัดฝุ่น เมื่อปัญหาเกิดก็ต้องลงมาแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามในวาระการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. ที่จะถึงนี้ คนที่เคยถูกปรับมาอยู่ในงานสอบสวนสามารถเขียนความสมัครใจย้ายไปอยู่หน้างานที่ถนัดได้ ซึ่งตนก็พร้อมรับฟังและพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป

ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตัวตาย หลายคนเข้าใจผิดว่าสาเหตุส่วนใหญ่ถูกย้ายมาอยู่งานสอบสวน ต้องดูสาเหตุที่แท้จริง บางคนมีโรคประจำตัว บางคนมีปัญหาจากบ้าน เรื่องหนี้สิน ความเครียด แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าสาเหตุที่กล่าวมามาจากงานด้วย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตัวตาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับผู้บังคับบัญชาให้สอดส่องดูแลลูกน้อง สอบถามสารทุกข์สุขดิบความเป็นอยู่ ขณะเดียวกันโรงพยาบาลตำรวจ ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยง ไม่เฉพาะพนักงานสอบสวน ตำรวจมีความเสี่ยงทุกกลุ่มอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดการบริหารเวลาให้เหมาะสมปรับเข้ากับบริบทของงาน

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า พนักงานสอบสวนเป็นงานเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เป็นกระดุมเม็ดแรกของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ที่ต้องมีความเชี่ยวชาญ ส่วนที่กล่าวกันว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายเป็นเพราะไม่คุ้นชินกับงานที่ถูกโยกย้าย ซึ่งปกติแล้วก่อนจะมาทำงานด้านสอบสวนจะมีการอบรมให้ความรู้อยู่แล้วใช่ว่าจะปล่อยให้ลงไปทำงานเลย บางคนเคยผ่านงานสอบสวนมาแล้วเพียงแต่ห่างไปก็มาทบทวน เช่นเดียวกันกับวันนี้ที่มีการสัมนาตัวแทนพนักงานสอบสวนทั่วประเทศเพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรคการทำงาน อะไรที่ยังขาดแล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image