เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุ นายติโม ไอนาริ พาร์ติเนน อายุ 52 ปี สัญชาติ ฟินแลนด์ ถูกคนร้ายก่อเหตุปล้นทรัพย์เงินสด 250,000 บาท เหตุเกิดในหมู่บ้านเซ็นทรัลปาร์ค 4 บ้านเลขที่ 76/21 ม.5 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จว.นครศรีธรรมราช ว่าได้รับรายงานจาก ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุ ชาวต่างชาติถูกปล้นทรัพย์พบผู้เสียหายถูกของมีคมได้รับบาดเจ็บบริเวณคอขวา 2 แผล แผลไม่ลึก ยาวประมาณแผลละ 1 ซม. พนักงานสอบสวนสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่าขณะผู้เสียหายพักผ่อนอยู่คนเดียวในห้องครัวมีคนร้าย 1 คน เข้ามาทางหน้าต่างห้องครัวด้านหลังบ้าน ผู้เสียหายรู้ตัว จึงเข้าไปกอดรัดต่อสู้กับคนร้าย จากนั้นคนร้ายใช้ของมีคมแทงผู้เสียหายบริเวณลำคอด้านขวามีแผล 2 แผล บาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นคนร้ายเอาเงินจำนวน 250,000 บาท ของผู้เสียหายหลบหนีไป ผู้เสียหายเห็นคนร้ายอีก 2 คน รออยู่ด้านนอกบ้าน ผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือจาก นายณัฐพงศ์ เหมือนเพชร เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงกันข้าม และแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ต่อมาพนักงานสอบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจที่เกิดเหตุ จากการตรวจที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าผู้เสียหายมีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อ นางสาว ทัศณีย์ สินโทวงค์ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาที่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อผู้เสียหายกลับมาบ้านที่เกิดเหตุ แต่เข้าบ้านไม่ได้ เพราะประตูรั้วหน้าบ้าน ภรรยาใส่กุญแจเอาไว้ มีนางหนู ฯ เพื่อนของผู้เสียหายไปตาม นายณัฐพงศ์ หรือเสือ เหมือนเพชร มาตีกุญแจประตูรั้ว เมื่อเข้าไปแล้ว ผู้เสียหายเอาเงิน 250,000 บาท วางไว้ในบ้าน และเอาเงินค่าจ้างให้นายเสือ ค่าจ้างทุบกุญแจ ต่อมาหลังจากนั้น ก็เกิดเหตุคนร้ายเข้ามาเอาเงินของผู้เสียหายดังกล่าวขึ้น
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่าพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และทำการถ่ายภาพ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป รวมถึง ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของคนร้าย และเร่งรัดตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี รวมถึงได้แจ้งสถานเอกอัครราชฟินแลนด์ ประจำประเทศไทย ให้ทราบถึงพฤติการณ์กรณีที่ชาวต่างชาติตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา รวมถึงรวบรวมรายละเอียดและพฤติการณ์ของผู้เสียหาย ให้กับทางกองบังคับการกองการต่างประเทศ รวมถึง ที่ทำการของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ ตำรวจท่องเที่ยว ในพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย
รองโฆษก กล่าวว่าคดีนี้อยู่ระหว่าง สืบสวนสอบสวน โดยพนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก แต่ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน
