ตม.เชียงใหม่จับลุงแดนกีวีเปิดร้านอาหารซุกยาอื้อ-รวบ10 มาเลย์ลอบจัดสัมมนาลงทุนบิทคอยน์

ตม.เชียงใหม่จับ 10 มาเลย์ลอบจัดสัมมนาลงทุนบิทคอยน์-ลุงแดนกีวีหวังใช้ชีวิตบั้นปลายในไทย เปิดธุรกิจร้านอาหารไม่ได้รับอนุญาต ก่อนค้นเจอโคเคน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี, พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย, พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์, พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช. สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.กฤษมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2 บก.ตม., พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผกก.ตม.เชียงใหม่

ร่วมแถลงการจับกุมชาวต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ใน พื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวม 2 คดี โดยคดีแรกจับกุมนายไมเคิล การ์เน็ท อีเดน โฮลท์ (MR.MICHAEL GARNET EDEN HOLT) ชาวนิวซีแลนด์ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาเป็นต่างด้าวลักลอบเปิดกิจการร้านอาหารและบาร์โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติด พร้อมของกลาง ยาอี 64 เม็ด, โคเคน 9 กรัม และยาเค 9 กรัม จับกุมได้ที่ร้านอาหารและบาร์แห่งหนึ่งบน ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และอีกคดีจับกุมชายชาวมาเลเซีย รวม 10 ราย หลังเข้ามาจัดสัมนาทางธุรกิจที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เพื่อชักชวนให้ชาวต่างชาติร่วมลงทุนเงินสกุลบิทคอยน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต

Advertisement

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจ ตม.เชียงใหม่ ทราบเบาะแสว่า ที่ร้านอาหารและบาร์ในชื่อ SPADES BISTRO & BAR ใน จ.เชียงใหม่ ได้มีคนต่างด้าวลักลอบทำงานผิดกฎหมาย โดยจะทำหน้าดูแลลูกค้าชาวต่างชาติ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้าน พบนายไมเคิลกำลังบริการลูกค้า จึงขอตรวจดูหนังสือเดินทางพบว่าได้เดินทางเข้ามาในประเทศ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุประเภทวีซ่าเข้ามาใช้ชีวิตบั้นปลาย ส่วนเอกสารการประกอบธุรกิจระบุว่านายไมเคิลเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทที่เปิดกิจการร้านอาหารแห่งนี้

พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน แต่นายไมเคิลอ้างว่า มีเพียงแค่ตัวกล้องเปล่าที่ติดตั้งไว้โดยไม่ได้เปิดบันทึกใช้งาน เนื่องจากเป็นของผู้เช่าอาคารคนเดิมซึ่งไม่ได้ถอดออกไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงนำกำลังขึ้นตรวจค้นที่ชั้นสองของร้าน ไม่พบการบันทึกข้อมูลในกล้องจริง แต่กลับพบยาอีหรือเอสตาซี, โคเคน และยาเค และถุงซิปล็อกเปล่า สอบถามนายไมเคิล ให้การว่าได้ซื้อยาเสพติดทั้งหมดในราคา 45,000 บาท มาจากเพื่อนชายชาวต่างชาติที่ไม่ทราบชื่อ ก่อนตรวจปัสสาวะนายไมเคิล และพบว่าได้เสพยาเสพติดจริง จึงจับกุมตัวและแจ้งข้อหา “เป็นต่างด้าวประกอบธุรกิจไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีใบอนุญาตทำงาน,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (อีหรือเอสตาซี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ, มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้จำหน่ายฯ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน), มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เค)” ก่อนคุมตัวส่ง สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ขยายผลเข้าตรวจค้นที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังทราบว่าเป็นบ้านพักที่นายไมเคิล ได้เช่าไว้พักอาศัย เมื่อไปถึงพบ น.ส.ภัณฑิรา เป็นเจ้าของบ้านและผู้ให้เช่า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในตัวบ้าน ยังพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดรวม 14 รายการ ประกอบด้วย ท่อสูบทองเหลืองภายในมีเขม่าควันดำคล้ายพืชฝิ่น จึงตรวจยึดไว้ก่อนนำส่งงานพิสูจน์หลักฐาน และขยายผลสืบสวนสอบสวนผู้กระทำผิดต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวว่า อีกคดีจับกุมชายชาวมาเลเซีย รวม 10 ราย หลังใช้พื้นที่จัดการสัมมนาในโรงแรม จ.เชียงใหม่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อชักชวนชาวจีนให้มาลงทุนเงินดิจิตัลสกุลบิทคอยน์โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มชาวต่างด้าวได้จัดสัมมนาขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยได้มีชาวจีนกว่า 100 คนเข้าร่วม จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจดูเอกสารการขออนุญาตจากนายทะเบียน กลุ่มผู้จัดชาวต่างด้าวกลับไม่สามารถแสดงเอกสารดังกล่าวได้ อีกทั้งพบว่าได้ใช้วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งวีซ่าประเภทนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทางธุรกิจ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อทำงานในลักษณะจำเป็นเร่งด่วนโดยไม่แจ้งเป็นหนังสือให้นายทะเบียนทราบ” ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image